การบริโภคอาหารมังสวิรัติที่อาจมีความเกี่ยวข้องต่อสุขภาพ จากการศึกษาทดลองในกลุ่มผู้รับประทานมังสวิรัตินมชาวจีน 169 คน เปรียบเทียบกับกลุ่มผู้บริโภคอาหารทั้งเนื้อและสัตว์ 126 คน พบว่า ผู้ที่รับประทานมังสวิรัตินม มีการแสดงประสิทธิผลด้านการลดระดับความดันโลหิต ระดับไขมันในเลือด และระดับความหนาของผนังหลอดเลือดแดงอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น การลดระดับลงในด้านต่าง ๆ เหล่านี้ในกลุ่มผู้รับประทานมังสวิรัตินม อาจแสดงถึงผลดีต่อการป้องกันและลดความเสี่ยงจากโรคหลอดเลือดหัวใจได้
อย่างไรก็ตาม การทดลองดังกล่าวเป็นเพียงการทดลองขนาดเล็ก และทำการทดลองเฉพาะในกลุ่มผู้ทดลองชายชาวจีน จึงควรมีการค้นคว้าทดลองถึงประสิทธิผลในด้านนี้ต่อไป ในกลุ่มทดลองอื่น ๆ และกระบวนการอื่น ๆ เพื่อพิสูจน์คุณประโยชน์ของการบริโภคอาหารมังสวิรัติอย่างชัดเจนต่อไปในอนาคต
ลดความเสี่ยงของการเกิดนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ
มีการทดลองหนึ่งที่ให้ผู้ชายสุขภาพดีจำนวน 10 คน รับประทานอาหารแต่ละประเภท ได้แก่ อาหารจำพวกเนื้อสัตว์ อาหารสไตล์ตะวันตก อาหารที่มีทั้งพืชและเนื้อสัตว์ และอาหารมังสวิรัตินมและไข่ แล้วตรวจวัดระดับกรดด่างจากปัสสาวะ (Acidic Urinary pH) เพื่อตรวจหาความเสี่ยงในการตกผลึกของกรดยูริกที่อาจเกี่ยวข้องกับการเกิดนิ่วชนิดยูริก ผลการทดลองพบว่า ระดับความเสี่ยงสูงสุดในการเกิดนิ่วชนิดยูริกในระบบทางเดินปัสสาวะ คือ การบริโภคอาหารจำพวกเนื้อสัตว์และอาหารตะวันตก โดยความเสี่ยงรองลงมา คือ การบริโภคอาหารที่มีทั้งพืชและเนื้อสัตว์ ในขณะที่อาหารมังสวิรัตินมและไข่มีผลลัพธ์ด้านความเสี่ยงในการเกิดนิ่วน้อยที่สุดอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม การทดลองดังกล่าวเป็นเพียงการทดลองขนาดเล็ก จึงควรมีการค้นคว้าทดลองถึงประสิทธิผลในด้านนี้ต่อไป ในกลุ่มทดลองอื่น ๆ และกระบวนการอื่น ๆ เพื่อพิสูจน์คุณประโยชน์ของการบริโภคอาหารมังสวิรัติอย่างชัดเจนต่อไปในอนาคต
โรคเบาหวาน
การทดลองหาประสิทธิภาพในการลดภาวะดื้อต่ออินซูลินจากการรับประทานอาหารมังสวิรัติในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ร่วมกับการออกกำลังกาย ด้วยการให้ผู้ป่วยในกลุ่มทดลอง 37 ราย รับประทานอาหารมังสวิรัติเป็นเวลา 24 สัปดาห์ แล้วเปรียบเทียบกับผู้ป่วยกลุ่มควบคุมในจำนวนเท่ากันที่ไม่ได้รับประทานอาหารมังสวิรัติ ผลลัพธ์ คือ ผู้ป่วยจากกลุ่มทดลองที่รับประทานอาหารมังสวิรัติมีการเปลี่ยนแปลงในระดับความไวต่ออินซูลิน เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ป่วยที่รับประทานอาหารควบคุมเบาหวานแบบทั่วไป โดยกลุ่มทดลองที่รับประทานอาหารมังสวิรัติมีการลดการใช้ยารักษาเบาหวาน มีน้ำหนักตัวลดลงมากกว่าอีกกลุ่มอย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้งมีการลดระดับไขมันในช่องท้อง และอาจเกี่ยวข้องกับการลดภาวะดื้อต่ออินซูลินได้อีกด้วย นอกจากนี้ การออกกำลังกายเพิ่มเติมก็มีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิผลด้านต่าง ๆ ในกลุ่มทดลองที่รับประทานอาหารมังสวิรัติด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ งานการวิจัยหนึ่งที่มีผู้รับการทดลองจำนวน 11 ราย ได้ค้นคว้าเกี่ยวกับกับประสิทธิผลของอาหารมังสวิรัติต่อการลดระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 (เบาหวานชนิดไม่พึ่งอินซูลิน: Non-insulin Dependent Diabetes Mellitus: NIDDM) ผลลัพธ์ที่ได้ คือ การรับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำและอาหารจำพวกมังสวิรัติ อาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดและน้ำหนักตัวของผู้ป่วยลงได้ แม้ไม่ได้มีการออกกำลังกาย อย่างไรก็ตาม การทดลองเหล่านี้ เป็นเพียงการทดลองขนาดเล็กมากที่ทำการทดลองในกลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวานบางประเภทเท่านั้น จึงควรมีการค้นคว้าทดลองถึงประสิทธิผลในด้านนี้ต่อไป เพื่อพิสูจน์คุณประโยชน์ของการบริโภคอาหารมังสวิรัติอย่างชัดเจนต่อไปในอนาคต
โรคโครห์น (Crohn’s Disease)
โรคโครห์น เป็นหนึ่งในโรคลำไส้ใหญ่อักเสบ ซึ่งเกิดการอักเสบที่บริเวณเนื้อเยื่อผนังลำไส้ใหญ่ ทำให้เกิดอาการต่าง ๆ อย่างการปวดท้อง ท้องร่วงรุนแรง เมื่อยล้าอ่อนแรง น้ำหนักลด หรือเกิดภาวะทุพโภชนาการได้
มีการทดลองหนึ่งที่ทดสอบประสิทธิผลของอาหารกึ่งมังสวิรัติในเชิงการป้องกันการป่วยซ้ำด้วยโรคโครห์น ในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงในการกลับมาป่วยด้วยโรคนี้อีกครั้งหลังการรักษาไปแล้ว จำนวนทั้งสิ้น 22 ราย โดยให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารกึ่งมังสวิรัติในระหว่างช่วงที่พักรักษาตัวในโรงพยาบาล และแนะนำให้ผู้ป่วยเหล่านั้นรับประทานอาหารกึ่งมังสวิรัติอย่างต่อเนื่องต่อไปโดยติดตามนาน 2 ปี ตลอดจนหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้ลำไส้ใหญ่อักเสบไปด้วย ผลลัพธ์คือ อาการของโรคหายไปสูงถึง 94% ในผู้ที่รับประทานอาหารกึ่งมังสวิรัติ เมื่อเทียบกับอาการหายไปเพียง 33% ในผู้ป่วยที่บริโภคอาหารทั้งพืชและสัตว์ทั่วไป แสดงถึงประสิทธิผลของอาหารกึ่งมังสวิรัติที่อาจช่วยป้องกันการป่วยซ้ำด้วยโรคโครห์นได้
อย่างไรก็ตาม การทดลองดังกล่าวเป็นเพียงการทดลองขนาดเล็กที่ทำการทดลองในกลุ่มผู้ป่วยโรคโครห์นเท่านั้น จึงควรมีการค้นคว้าทดลองถึงประสิทธิผลในด้านนี้ต่อไป เพื่อพิสูจน์คุณประโยชน์ของการบริโภคอาหารมังสวิรัติอย่างชัดเจนต่อไปในอนาคต