“ประกัน” เรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจครับ…เพราะในบทความนี้จะช่วยทำให้คุณเข้าใจในตัวประกันชีวิตแบบตลอดชีพมากยิ่งขึ้น ด้วยการสรุปข้อมูลว่า ประกันชีวิตแบบตลอดชีพนี้มีประโยชน์อย่างไร เหมาะสำหรับคุณหรือไม่ และมีข้อสังเกตอะไรที่ควรรู้ก่อนทำประกันบ้าง ตามไปหาคำตอบพร้อมๆ กันได้เลยครับ
หลังจากทำงานมาได้สักพัก หลายคนคงเริ่มต้นวางแผนชีวิตเพื่อก้าวเข้าสู่สถานะใหม่นั่นก็คือ การเป็นเสาหลักของครอบครัว ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการทำหน้าที่ในฐานะของลูกที่ดีในการเลี้ยงดูบุพการี หรือการเริ่มต้นชีวิตใหม่ในฐานะพ่อหรือแม่ของลูก ทุกคนล้วนต้องการมีหลักประกันให้กับชีวิตของตนเองและคนที่อยู่ข้างหลัง ในยามฉุกเฉิน เพราะเหตุการณ์ไม่คาดฝันจะเกิดขึ้นกับเราตอนไหนไม่มีใครรู้ได้ หากไม่ได้วางแผนล่วงหน้า ภาระหนี้สินต่างๆ ของเราทั้งหมด หรือ ค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ต้องตกเป็นความรับผิดชอบของคนในครอบครัวที่ก็ไม่รู้ว่าจะสามารถดูแลค่าใช้จ่ายและแบกรับภาระหนี้สินที่จะเกิดขึ้น ได้มาก-น้อยขนาดไหน
ดังนั้น การทำประกันจึงเป็นทางเลือกที่ช่วยสร้างหลักประกันความมั่นคงให้กับชีวิตและทรัพย์สินของคุณและครอบครัว ซึ่งประกันที่เรารู้จักกันดีก็จะมีทั้งแบบที่เป็นประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ หรือประกันชีวิต โดยประกันชีวิตแบบตลอดชีพจะเป็นประกันรูปแบบหนึ่งในกลุ่มของประกันชีวิตพื้นฐาน ที่ให้ความคุ้มครองชีวิตระยะยาวเหมาะสำหรับคนที่มีภาระที่ต้องดูแล หรือคนมีครอบครัว ที่อยากจะวางแผนซื้อประกันที่ช่วยแบ่งเบาความเสี่ยงในด้านชีวิตและรายได้ ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินจนถึงขั้นเสียชีวิต ให้เรามั่นใจได้ว่า คนข้างหลังจะไม่เดือดร้อนและมีเงินก้อนสำหรับใช้จ่ายอย่างแน่นอน
ดังนั้น การทำประกันจึงเป็นทางเลือกที่ช่วยสร้างหลักประกันความมั่นคงให้กับชีวิตและทรัพย์สินของคุณและครอบครัว ซึ่งประกันที่เรารู้จักกันดีก็จะมีทั้งแบบที่เป็นประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ หรือประกันชีวิต โดยประกันชีวิตแบบตลอดชีพจะเป็นประกันรูปแบบหนึ่งในกลุ่มของประกันชีวิตพื้นฐาน ที่ให้ความคุ้มครองชีวิตระยะยาวเหมาะสำหรับคนที่มีภาระที่ต้องดูแล หรือคนมีครอบครัว ที่อยากจะวางแผนซื้อประกันที่ช่วยแบ่งเบาความเสี่ยงในด้านชีวิตและรายได้ ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินจนถึงขั้นเสียชีวิต ให้เรามั่นใจได้ว่า คนข้างหลังจะไม่เดือดร้อนและมีเงินก้อนสำหรับใช้จ่ายอย่างแน่นอน
ประโยชน์ของประกันชีวิตตลอดชีพ
1. เบี้ยประกันไม่แพงอย่างที่คิด
หลายท่านที่ซื้อประกันชีวิตก็มักจะเปรียบเทียบเบี้ยประกันกับทุนประกันชีวิตถึงความถูกและแพงที่ได้รับ ซึ่งถ้าหากนำประกันชีวิตแบบตลอดชีพนั้นมาเปรียบเทียบทุนประกัน จะเห็นว่าระยะเวลาความคุ้มครองและเบี้ยที่จ่ายไปนั้นถือว่าคุ้มค่าเลยทีเดียว
2. ส่งต่อมรดกให้ลูกหลาน
สำหรับใครที่มีเป้าหมายในการทำประกันเพื่อเป็นเงินมรดกไว้ให้กับลูกหลาน การทำประกันชีวิตแบบตลอดชีพถือเป็นอีกวิธีออมเงินรูปแบบหนึ่งที่น่าสนใจ
เนื่องจากเป็นการทำประกันที่คุ้มครองชีวิตระยะยาวนานจนถึงอายุ 90-99 ปี โดยอาจจะมีระยะเวลาการชำระเบี้ยประกันสั้นๆ ที่กำหนดแน่นอน เช่น 5 ปี หรือ 10 ปี หรือชำระเบี้ยประกันตลอดชีพ หลังจากนั้นจะได้รับทุนประกันกลับมาใช้ในรูปแบบของการเป็นมรดกให้กับคนข้างหลัง หากวันใดวันหนึ่งผู้ทำประกันได้เสียชีวิตลง หรือผู้เอาประกันมีชีวิตยืนยาวจนถึงครบกำหนดอายุสัญญาประกันชีวิต ก็จะได้รับทุนประกันพร้อมเงินผลประโยชน์เพิ่มเติมตามกรมธรรม์ (ขึ้นอยู่กับแบบกรมธรรม์ของแต่ละบริษัท)
3. เพิ่มประโยชน์ให้กับประกันสุขภาพ
โดยปกติแล้วการซื้อประกันสุขภาพจะมีให้เลือกซื้ออยู่ 2 แบบ นั่นคือ
ประกันสุขภาพเดี่ยว
ประกันชีวิตพ่วงประกันสุขภาพ (สัญญาเพิ่มเติมแนบท้ายการประกันสุขภาพ)
ซึ่งถ้าคุณเลือกซื้อประกันในรูปแบบประกันสุขภาพเดี่ยว หากในปีนั้นๆ เราเกิดป่วยแล้วเบิกใช้ประกันมากๆ ในปีต่อไปบริษัทประกันอาจปฏิเสธการทำประกันสุขภาพได้ แต่ถ้าเราทำประกันแบบตลอดชีพแล้วพ่วงประกันสุขภาพเข้าไปด้วยก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการปฏิเสธเบี้ยประกันสุขภาพปีต่อได้
เช่น ถ้าหากคุณอายุ 70 ปี แล้วอยากทำประกันสุขภาพอาจเป็นเรื่องยากที่จะได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุม แต่ถ้าหากเลือกทำประกันชีวิตโดยใช้ประกันแบบตลอดชีพแล้วพ่วงประกันสุขภาพด้วยก็จะเป็นการการันตีอย่างหนึ่งว่า บริษัทจะรับประกันสุขภาพเราจนถึงครบอายุรับประกันตามสัญญาหลักหรือจนถึงอายุรับประกันภัยตามสัญญาเพิ่มเติมแนบท้าย ซึ่งในบางบริษัทจะรับประกันสุขภาพจนถึงอายุ 80-90 ปีเลยทีเดียว
4. ได้รับสิทธิลดหย่อนภาษี
ใครที่ทำประกันชีวิตที่มีระยะเวลาความคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป จะได้รับสิทธิประโยชน์ในการนำเบี้ยประกันภัยไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท แต่ถ้าทำประกันสุขภาพพ่วงมาด้วย ก็สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้อีก 15,000 บาท แต่เมื่อนำเบี้ยฯ ของทั้งสองแบบ รวมกันแล้วสามารถลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 100,000 บาท (ตามกฏเกณฑ์ของกรมสรรพากร)