ล็อกดาวน์ทำให้สุขภาพจิตแย่ได้อย่างไร?

ล็อกดาวน์ทำให้สุขภาพจิตแย่ได้อย่างไร? ไม่มีความหวัง คำนี้อาจจะอธิบายได้ดีและครอบคลุมที่สุด การล็อกดาวน์นั้นประกอบด้วยสถานการณ์ที่เราต้องเจอมากมาย เช่น ต้องอยู่แต่บ้าน เห็นข่าวผู้เสียชีวิต ไม่ได้เจอผู้คน ไม่ได้ออกไปเที่ยว ไม่ได้ใช้ชีวิต อยู่อย่างหวาดกลัว ปัญหาด้านการเงิน ความสัมพันธ์ทั้งหลายที่ทำให้รู้สึกไม่มีความหวัง สิ้นหวัง

กรมสุขภาพจิตเคยออกมาเผยว่า พบคนไทยอยู่ในภาวะเครียด อ่อนล้า หมดหวังเพิ่มมากขึ้น บางคนเข้าข่ายเป็นโรคซึมเศร้า โดยเฉพาะในพื้นที่สีแดงและสีส้ม พื้นที่ที่มีจำนวนผู้ป่วยสูง

ที่เลวร้ายกว่านั้น รายงานจากกรมสุขภาพจิต ชี้ให้เห็นว่าช่วงที่ผ่านสถิติการฆ่าตัวตายของประเทศไทยนั้นสูงขึ้นเรื่อยๆ (จำนวนเกือบใกล้เคียงกับวิกฤตต้มยำกุ้ง) และเห็นว่าส่งผลต่อทุกช่วงอายุ ทุกวัย ตั้งแต่เด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน ผู้สูงอายุ ทุกอาชีพ มากที่สุดจะเป็นกลุ่มผู้ใช้แรงงาน

อีกข้อมูลที่น่าสนใจมาจากยูนิเซฟที่เผยว่า นับตั้งแต่โควิด-19 เริ่มแพร่ระบาด เด็กและเยาวชนอย่างน้อย ทั่วโลกราวๆ 332 ล้านคน คิดเป็นอย่างน้อย 1 ใน 7 คน ต้องอยู่แต่ในบ้านมาแล้วอย่างน้อย 9 เดือน ส่งผลให้เด็กและเยาวชนเหล่านั้นเสี่ยงต่อปัญหาด้านสุขภาพจิตและสุขภาวะโดยรวม

ในประเทศไทย ผลสำรวจพบว่า เด็กและเยาวชนกว่า 7 ใน 10 คน กล่าวว่าวิกฤตโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจ พวกเขามีความเครียด เป็นห่วงและวิตกกังวล โดยเรื่องที่พวกเขากังวลมากที่สุดคือปัญหาการเงินของครอบครัว

จากข้อมูลเบื้องต้นนี้ก็ทำให้หลายฝ่ายออกมาส่งเสริมให้รัฐมีการจัดการเรื่องสุขภาพจิตมากขึ้นจากที่ทำอยู่

รับมือกับสุขภาพจิตอย่างไรในช่วงสถานการณ์โควิด-19
ระบายหรือพูดออกมากับคนที่รับฟังเราด้วยใจ (อาจจะเป็นเพื่อน ผู้เชี่ยวชาญ หรือแอปต่างๆ ที่ช่วยรับฟังปัญหาสุขภาพจิต)
ติดตามข่าวสารเท่าที่จำเป็น การเสพข่าวมากไปบางครั้งก็ทำให้สุขภาพจิตแย่ได้


ตรวจสอบสภาพร่างกายและจิตใจอยู่เสมอ
ทำกิจวัตรประจำวันให้ปกติ
ออกกำลังกาย
พักผ่อนให้เพียงพอ
ทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่
วางแผนการใช้ชีวิต
พยายามติดต่อพูดคุยกับคนอื่นอยู่บ่อยๆ
หางานอดิเรกที่ชอบ หาอะไรทำเพิ่ม
ยอมรับความรู้สึกแย่ๆของตัวเอง

อันนี้เป็นคำแนะนำเบื้องต้นเท่านั้น หากรู้สึกว่าตัวเองมีปัญหาความเครียดจนส่งผลต่อชีวิตก็แนะนำว่าให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ