การบริหารร่างกายนับได้ว่าเป็นสิ่งที่ดี สำหรับทุกคน แต่ว่าการออกกำลังกายที่ร้ายแรงเหลือเกิน อาจจะเป็นผลให้ได้รับอาการบาดเจ็บ ซึ่งมีผลกระทบต่อกล้ามและก็ข้อต่างๆของร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อที่มีการรับน้ำหนัก ได้แก่ ข้อหัวเข่า หรือรอบๆข้อเท้า
บาดเจ็บจากการเล่นกีฬา (Sports Injuries)
การเล่นกีฬา แล้วมีการกระทบกระทั่ง มีคนอื่นๆมากมายระทำ หรือแม้กระทั้งเสียหลักด้วยตัวเองแล้วมีการเจ็บของกล้าม เอ็น และก็ข้อต่อต่างๆทำให้ไม่อาจจะใช้งานได้ดังเดิม ก่อกวนการใช้ชีวิตประจำวัน หรือทำให้ความสามารถสำหรับการดำรงชีวิตทุกวันเสียไปหรือลดลง แบ่งเป็น 2 แบบ เป็น
- อาการบาดเจ็บจากการเผชิญหน้า (Contact Injury) มีต้นเหตุจากกีฬาที่เล่นตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปหรือเล่นเป็นกลุ่ม มีการปะทะหรือการกระทบ ทำให้กล้าม เอ็นได้รับบาดเจ็บ มีการขยับไม่ถูกตำแหน่ง เขยื้อน หรือฉีกให้ขาด กีฬาที่ทำให้เดการบาดเจ็บชนิดนี้ เป็นต้นว่า บอล บาสเกตบอล รักบี้
- อาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นมาจากตนเอง (Non-contact Injury) เป็นการเจ็บที่เกิดขึ้นจากตนเอง มีการขยับผิดจังหวะ กระทั่งทำให้มีการบิดตัว จนถึงกล้าม เอ็น ข้อต่อได้รับบาดเจ็บหรือมีการฉีกจนขาด
สิ่งที่พบบ่อย
1.อาการบาดเจ็บของกล้าม (Strain) อาการบาดเจ็บจากการยุบตัวของกล้ามเอง ซึ่งอาจเป็นเพราะเนื่องจากการยุบแบบอย่างร้ายแรงทันทีทันควัน กระทั่งทำให้เส้นเลือดฝอยรอบๆใยกล้ามฉีกจนขาด หรืออาจเป็นเพราะการยุบตัวของกล้ามผูกนั้นมากจนเกินไปในเวลาต่อเนื่องกันที่เรียกว่า Overuse (การใช้แรงงานมากจนเกินไป)
เช่น การเล่นเวท (Weight Training) ที่ใช้น้ำหนักมากเกินไป หรือทำซ้ำติดต่อกันนานเกินไปจนทำให้เกิดการเคล็ดขัดยอก การฟกช้ำ กล้ามเนื้อที่มักได้รับการแบบเจ็บเช่น กล้ามเนื้อแฮมสตริง (Hamstring) กล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า (Quadriceps muscles)
2.อาการบาดเจ็บของเอ็น ข้อต่อ (Sprain) ตัวอย่างเช่น เอ็นร้อยหวายฉีก ข้อเท้ากลับ และก็อาการบาดเจ็บรอบๆ ข้อเท้า ข้อหัวเข่า กีฬาที่พบได้มากอาการบาดเจ็บของข้อหัวเข่าหรือข้อเท้าได้เป็นประจำเป็น กีฬาที่จำต้องใช้การปะทะ หรือกระทบกระแทกกัน ดังเช่นว่า บอล หรือแม้กระทั้งกีฬาที่มีการเคลื่อนทั้งหมดทั้งปวงของร่างกาย ดังเช่น กอล์ฟ ซึ่งการบิดตัวแล้วก็หวดวงสวิงต่างๆการ ก็ทำให้เจ็บข้อหัวเข่าหรือข้อเท้าได้เหมือนกัน
3.อาการบาดเจ็บที่หัวเข่า (Knee Injury) ซึ่งมีข้อต่อ รวมทั้งเอ็นเป็นส่วนมาก บริเวณข้อมีกล้ามที่สำคัญหมายถึงกล้ามต้นขาข้างหน้า (Quadriceps muscles ) ปฏิบัติภารกิจดูหมิ่นเหยียดหยามข้อหัวเข่า กล้ามที่อยู่ต้นขาข้างหลัง (Hamstring muscles) หากส่วนต่างๆอย่างใดอย่างหนึ่งเสียไป หรือปฏิบัติภารกิจมิได้ตามเดิมก็จะเสียความยั่งยืนมั่นคงของข้อหัวเข่า
ส่วนเอ็นใหญ่ 4 เส้น ช่วยเรื่องความมั่นคงยั่งยืนของข้อหัวเข่าเป็นเอ็นหัวเข่าข้างนอก (Lateral collateral ligament) เอ็นหัวเข่าภายใน (Medial collateral ligament) เอ็นขัดหน้า (Anterior cruciate ligament) และก็เอ็นไขว้หลัง (Posterior cruciate ligament) ถ้าเกิดอุบัติเหตุจนกระทั่งเอ็นกลุ่มนี้เจ็บ หรือฉีกจนขาดจะเป็นเหตุให้เกิดอาการข้อหัวเข่าหละหลวม หัวเข่าหลุดได้ ทำให้ไม่อาจจะเล่นกีฬาได้ตามธรรมดา
การรักษา
1.การใช้ยา (Medication) ลดอาการบวม ยาพารา ถ้าหากอาการกำเริบ บางทีอาจเพิ่มยาพาราในกรุ๊ปไม่มีสเตียรอยด์ (NSAIDs) หรือมีส่วนผสมของมอร์ฟีน ดังนี้ยังมียาฉีด ยาใช้ภายนอก ยาติดผิวหนังเพื่อทุเลาลักษณะของการปวด แม้เป็นการฟกช้ำดำเขียวปกติ การดูแลรักษาจำนวนมากใช้ยาคลายกล้ามหรือยาต่อต้านการอักเสบเพื่อช่วยลดลักษณะของการปวด แล้วก็พักการใช้แรงงานของข้อต่อรอบๆนั้น
2.กายภาพบำบัด (Physiotherapy) ย้ำการลดลักษณะของการปวดเป็นหลัก สำหรับการบาดเจ็บต่อเอ็น หรือข้อกระดูกอ่อน การดูแลรักษาบางทีอาจจำเป็นต้องใช้แนวทางเข้าเฝือกตรงข้อที่เจ็บ หรือช่วยไขปัญหากล้ามลีบก่อนที่จะมีการผ่าตัด
3.การผ่าตัด (Surgery) กรณีรักษาโดยการใช้ยาและก็กายภาพบำบัดไม่ได้เรื่อง หรืออาการบาดเจ็บที่ออกจะร้ายแรง มีการฉีกจนขาดของเอ็นทั้งผอง ทำให้ความแข็งแรงของข้อต่อสูญเสียไป รวมทั้งคราวที่เร่งด่วน อาทิเช่น ข้อหลุด ข้อแตก บางทีอาจจะต้องได้รับการดูแลและรักษาโดยการผ่าตัด