สุขภาพและน้ำหนัก ในปัจจุบันนี้นั้นมีจำนวนถึง 25% ของประชากรไทยมีโรคไขมันพอกตับอยู่ โดยที่คนโดยมากชอบไม่รู้ตัว คนไข้ที่เป็นโรคไขมันพอกตับราวๆ 1 ใน 4 จะเปลี่ยนเป็นโรคตับอักเสบ แล้วก็บางทีอาจแผ่ขยายกระทั่งเป็นโรคโรคมะเร็งตับ โดยช่องทางกำเนิดโรคไขมันพอกตับนั้น สามารถเป็นไปได้ทั้งเพศหญิง ผู้ชาย แล้วก็เด็กที่มีโรคอ้วน
อาหารที่เสี่ยงไขมันพอกตับ
คาร์โบไฮเดรต : แป้ง น้ำตาล ข้าว เส้นก๋วยเตี๋ยว ขนมปัง พิซซ่า ขนม น้ำอัดลม น้ำหวาน รวมทั้งรวมทั้งน้ำผลไม้ (มีน้ำตาลฟรุกโตสสูง) แล้วก็ผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง ได้แก่ มะม่วงสุก ทุเรียน
ไขมันอิ่มตัวสูง : ของกินที่มีไขมันอิ่มตัวสูง ดังเช่นว่า ของทอด ไอติม อื่นๆอีกมากมาย เด็กอ้วนก็เสี่ยงจะเป็นไขมันพอกตับได้ตั้งแต่วัยรุ่นเช่นเดียวกัน
โดยเหตุนั้นควรรอบคอบสำหรับการรับประทานของทอด ขนม ไม่ให้รับประทานมากจนเกินความจำเป็นด้วย นอกนั้น การกระทำสำหรับในการดำเนินชีวิตเอื่อยเฉื่อย ไม่ค่อยบริหารร่างกาย ก็เพิ่มการเสี่ยง สำหรับเพื่อการเป็นไขมันพอกตับเช่นเดียวกัน
อาการที่เกิดขึ้น
คนไข้ “ไขมันพอกตับ” โดยมากไม่มีอาการปรากฏให้เห็นได้ชัดเจน มักพบโดยบังเอิญเมื่อเข้ารับการตรวจสุขภาพ รายปี
แม้กระนั้นในบางรายบางทีอาจพบว่ามีลักษณะเหน็ดเหนื่อยง่าย หรือปวดแน่นรอบๆใต้ชายโครงขวา เว้นเสียแต่มีภาวการณ์อ้วน ซึ่งเป็นอ้วนแบบมีท้อง และก็ถ้าเกิดผู้เจ็บป่วยมีลักษณะอาการโรคตับแข็งแล้ว บางทีอาจตรวจเจออาการโรคตับเรื้อรังด้วย
แนวทางและวิธีการป้องกัน
ลดน้ำหนัก จำนวนมากผู้ที่เป็นไขมันพอกตับมักมีน้ำหนักเกินมาตรฐาน หรือเป็นโรคอ้วน มีงานศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยพบว่าการลดหุ่นลงกว่าเดิม 10๔ ช่วยลดจำนวนไขมันที่อยู่ในตับได้
ลดการกินคาร์โบไฮเดรต ลดจำนวนการกินของกินที่มีคาร์โบไฮเดรต ดังเช่นว่า ข้าว เส้นก๋วยเตี๋ยว รวมทั้งของว่าง และก็เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงต่างๆโดยเลือกรับประทานคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนให้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ยกตัวอย่างเช่น ข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีต และก็ใน 1 มื้อให้เป็นคาร์โบไฮเดรต 30% ผักแล้วก็โปรตีน 50%
