โรคกล้ามเนื้อกระตุกเป็นภาวะที่กล้ามเนื้อหดตัวโดยไม่สมัครใจเกิดขึ้นได้กับทุกคน อาการอาจเป็นเพียงเล็กน้อย เช่น กระพริบตาถี่ๆหรือรุนแรงจนส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน อาการกล้ามเนื้อกระตุกหรือที่เรียกว่าอาการกระตุกแบบกระตุกเป็นภาวะที่หลายๆ คนประสบพบเจอในบางช่วงของชีวิต แม้ว่าอาการนี้จะไม่เป็นอันตราย แต่การทำความเข้าใจสาเหตุและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
จากการกระตุกของกล้ามเนื้อจะช่วยในการจัดการภาวะนี้และทราบว่าเมื่อใดจึงควรไปพบแพทย์
อาการกล้ามเนื้อกระตุกคืออะไร?
อาการกล้ามเนื้อกระตุกหมายถึงการหดตัวเล็กน้อยของกล้ามเนื้อในร่างกายโดยไม่ได้ตั้งใจ อาการกระตุกเหล่านี้มักเกิดขึ้นเพียงช่วงสั้นๆ และอาจเกิดขึ้นกับกล้ามเนื้อทุกส่วน แต่โดยทั่วไปจะสังเกตเห็นได้ที่เปลือกตา แขน ขา หรือนิ้ว อาการกระตุกโดยทั่วไปจะไม่เจ็บปวด แต่หากอาการกระตุกยังคงอยู่หรือเกิดขึ้นบ่อยครั้ง อาจสร้างความรำคาญหรือน่ากังวลได้
สาเหตุทั่วไปของอาการกล้ามเนื้อกระตุก
ความเครียดและความวิตกกังวล:สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดประการหนึ่งของอาการกล้ามเนื้อกระตุกคือความเครียด เมื่อร่างกายอยู่ในภาวะเครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนออกมา ซึ่งอาจทำให้กล้ามเนื้อหดตัวโดยไม่ได้ตั้งใจ ความวิตกกังวลยังอาจทำให้กล้ามเนื้อกระตุกได้ โดยเฉพาะหากบุคคลนั้นมีความตระหนักรู้ถึงความรู้สึกทางร่างกายของตนเองเป็นพิเศษ
คาเฟอีนและสารกระตุ้น:การบริโภคคาเฟอีนหรือสารกระตุ้นอื่นๆ มากเกินไปอาจไปกระตุ้นระบบประสาทมากเกินไป ส่งผลให้กล้ามเนื้อกระตุก การลดการบริโภคสารเหล่านี้มักจะช่วยบรรเทาอาการได้
การออกกำลังกาย:หลังจากออกกำลังกายอย่างหนัก กล้ามเนื้ออาจกระตุกในขณะที่ฟื้นตัวจากการออกกำลังกายหนัก นี่เป็นปฏิกิริยาปกติและมักจะหายได้เอง
การขาดสารอาหาร:การขาดสารอาหารบางชนิด โดยเฉพาะแมกนีเซียม แคลเซียม และโพแทสเซียม อาจทำให้กล้ามเนื้อกระตุกได้ การรับประทานอาหารที่มีวิตามินและแร่ธาตุในปริมาณที่เพียงพอถือเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพของกล้ามเนื้อ
ความเหนื่อยล้า:การใช้งานกล้ามเนื้อมากเกินไปหรือความเหนื่อยล้าทั่วไปอาจทำให้กล้ามเนื้อกระตุก การพักผ่อนและฟื้นฟูอย่างเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันอาการดังกล่าว
เมื่อไรจึงควรไปพบแพทย์
แม้ว่าอาการกล้ามเนื้อกระตุกมักไม่เป็นอันตราย แต่บางครั้งก็อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงภาวะทางระบบประสาทที่แฝงอยู่ คุณควรพิจารณาไปพบแพทย์หาก:
อาการกระตุกคงอยู่เป็นเวลาหลายสัปดาห์โดยไม่มีการปรับปรุง
คุณประสบกับอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง กล้ามเนื้อสูญเสียโทน หรือกล้ามเนื้อฝ่อ
อาการกระตุกจะมาพร้อมกับอาการอื่นๆ เช่น พูดลำบาก กลืนลำบาก หรือหายใจลำบาก
ไม่มีสาเหตุที่ชัดเจน เช่น ความเครียดหรือการออกกำลังกาย ที่ทำให้เกิดอาการกระตุก
สาเหตุร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้น
ในบางกรณี อาการกระตุกของกล้ามเนื้ออาจเกี่ยวข้องกับอาการที่ร้ายแรงกว่า เช่น:
โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงด้านข้าง (ALS):หรือที่เรียกว่าโรค Lou Gehrig เป็นโรคทางระบบประสาทที่ค่อยๆ แย่ลง โดยส่งผลต่อเซลล์ประสาทในสมองและไขสันหลัง ส่งผลให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงและกระตุก
โรคเส้นโลหิตแข็ง (MS): MS เป็นโรคเรื้อรังที่ส่งผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง ซึ่งอาจทำให้กล้ามเนื้อกระตุกและมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น อาการอ่อนล้า เดินลำบาก และปัญหาด้านการมองเห็น
โรคเส้นประสาทส่วนปลาย:ความเสียหายของเส้นประสาทส่วนปลายอาจทำให้เกิดอาการกระตุก ชา และเจ็บปวด โดยเฉพาะในบริเวณแขนขา
การจัดการอาการกระตุกของกล้ามเนื้อ
สำหรับคนส่วนใหญ่ อาการกล้ามเนื้อกระตุกสามารถควบคุมได้ด้วยการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและการดูแลตนเอง กลยุทธ์บางประการ ได้แก่:
การลดความเครียด:ฝึกเทคนิคการผ่อนคลาย เช่น การหายใจเข้าลึกๆ การทำสมาธิ หรือโยคะ เพื่อลดระดับความเครียด
การสร้างสมดุลการรับประทานอาหาร:ให้แน่ใจว่าอาหารของคุณมีวิตามินและแร่ธาตุเพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญต่อการทำงานของกล้ามเนื้อ
จำกัดสารกระตุ้น:ลดการบริโภคคาเฟอีนและสารกระตุ้นอื่นๆ ที่อาจทำให้เกิดอาการกระตุก
การรักษาระดับน้ำในร่างกายให้เหมาะสม:การขาดน้ำอาจทำให้เกิดตะคริวและกล้ามเนื้อกระตุก ดังนั้นการดื่มน้ำให้เพียงพอจึงเป็นสิ่งสำคัญ
อาการกล้ามเนื้อกระตุกเป็นอาการทั่วไปที่มักไม่ถือเป็นเรื่องน่ากังวล อย่างไรก็ตาม การทำความเข้าใจสาเหตุและช่วงเวลาที่อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงภาวะที่ร้ายแรงกว่านั้นจะช่วยให้คุณจัดการกับอาการต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากคุณมีอาการกล้ามเนื้อกระตุกอย่างต่อเนื่องหรือน่ากังวล ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์เพื่อตัดโรคที่เป็นพื้นฐานออกไป โปรดจำไว้ว่าการคอยติดตามข่าวสารและดูแลสุขภาพของคุณอยู่เสมอเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาสุขภาพของคุณ