โรคสครับไทฟัส หรือ ไข้รากสาดใหญ่เป็นโรคติดเชื้อที่มักพบในเขตร้อนชื้น โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงประเทศไทยของเราด้วย โรคนี้เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ซึ่งมีตัวไรอ่อนเป็นพาหะนำโรค โรคสครับไทฟัสเป็นโรคติดเชื้อที่เกิดจากแบคทีเรียโอเรียนเชีย ซูซูกามูชิ โรคนี้ติดต่อสู่มนุษย์ได้เป็นหลักผ่านการถูกไรฝุ่นที่ติดเชื้อกัด ซึ่งเป็นระยะตัวอ่อนของไรบางชนิด
แม้ว่าโรคไทฟัสชนิดสครับจะพบได้ทั่วไปในพื้นที่ชนบทของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียตะวันออกและหมู่เกาะแปซิฟิก แต่การตระหนักถึงโรคนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากอาจร้ายแรงได้หากไม่ได้รับการรักษา
อาการ
อาการของโรคไทฟัสมักจะปรากฏภายใน 10 วันหลังจากถูกไรฝุ่นกัด อาการทั่วไป ได้แก่:
ไข้สูง
อาการปวดศีรษะรุนแรง
อาการหนาวสั่น
อาการปวดเมื่อยตามตัวและปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
ต่อมน้ำเหลืองโต
ผื่น
เอสชาร์ (จุดสีดำคล้ายสะเก็ดที่บริเวณที่ถูกไรกัด)
ในบางกรณี โรคอาจรุนแรงขึ้นจนมีอาการรุนแรงขึ้น เช่น สับสน มีปัญหาทางเดินหายใจ และอวัยวะล้มเหลว หากไม่ได้รับการรักษา โรคไทฟัสชนิดสครับอาจถึงแก่ชีวิตได้ โดยเฉพาะในกลุ่มประชากรที่มีความเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
การแพร่เชื้อ
โรคไทฟัสมักติดต่อได้ในพื้นที่ที่มีพืชพรรณหนาแน่น เช่น ป่าไม้และทุ่งนา ซึ่งเป็นที่ที่ไรฝุ่นที่ติดเชื้ออาศัยอยู่ ความเสี่ยงในการติดเชื้อจะสูงที่สุดในช่วงฤดูฝนซึ่งเป็นช่วงที่ไรฝุ่นมีจำนวนมากที่สุด ผู้ที่เดินทางไปยังพื้นที่ที่มีโรคประจำถิ่นและทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น ตั้งแคมป์ เดินป่า หรือทำงานในทุ่งนาในชนบท มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเพิ่มขึ้น
การวินิจฉัยและการรักษา
การวินิจฉัยโรคสครับไทฟัสมักพิจารณาจากอาการทางคลินิกและประวัติการสัมผัสพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค การตรวจเลือดสามารถยืนยันการมีอยู่ของ แบคทีเรีย Orientia tsutsugamushiได้ การวินิจฉัยในระยะเริ่มต้นมีความสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันภาวะแทรกซ้อน
ข่าวดีก็คือ โรคไทฟัสสามารถรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยยาปฏิชีวนะ เช่น ด็อกซีไซคลินหรืออะซิโธรมัยซิน ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะหายเป็นปกติได้หากเริ่มการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ อย่างไรก็ตาม หากไม่ได้รับการรักษา โรคดังกล่าวอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น อวัยวะล้มเหลวและเสียชีวิตได้
การป้องกัน
การป้องกันโรคไทฟัสชนิดสครับไทฟัสนั้น จะต้องหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีไรติดเชื้ออยู่เป็นหลัก ต่อไปนี้คือมาตรการป้องกันบางประการ:
สวมเสื้อผ้าที่ปกป้องผิวหนังให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เมื่ออยู่ในพื้นที่ที่มีพืชพรรณหนาแน่น
ใช้สารขับไล่แมลงที่ประกอบด้วย DEET หรือเพอร์เมทรินกับผิวหนังและเสื้อผ้าที่สัมผัสแสงแดด
หลีกเลี่ยงการนั่งหรือการนอนบนพื้นในบริเวณที่มีโรคไทฟัสที่พบบ่อย
หลังจากใช้เวลาอยู่กลางแจ้ง ควรตรวจร่างกายและเสื้อผ้าของคุณว่ามีไรหรือไม่ และถอดออกทันที
โรคสครับไทฟัสเป็นโรคร้ายแรงที่อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนทางสุขภาพที่รุนแรงได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที การรับรู้ถึงอาการและการใช้มาตรการป้องกันสามารถลดความเสี่ยงในการติดโรคได้อย่างมาก หากคุณมีอาการหลังจากใช้เวลาในพื้นที่ที่มักเกิดโรคสครับไทฟัส ควรไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุดเพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษา หากดูแลอย่างเหมาะสม คนส่วนใหญ่จะสามารถหายจากโรคสครับไทฟัสได้อย่างสมบูรณ์