โรคไตเรื้อรังส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต ภัยเงียบที่คุณควรรู้

โรคไตเรื้อรังเป็นโรคที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนนับล้านทั่วโลก โดยมักไม่มีอาการชัดเจนในระยะเริ่มแรก โรคนี้เกิดขึ้นเมื่อไตค่อยๆ สูญเสียความสามารถในการกรองของเสียและของเหลวส่วนเกินออกจากเลือด โรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้ในเวลาหลายเดือนหรือหลายปีและหากไม่ได้รับการรักษา อาจนำไปสู่ภาวะไตวายและต้องฟอกไตหรือปลูกถ่ายไต

โรคไตเรื้อรังเป็นภาวะที่ไตค่อยๆ เสื่อมสมรรถภาพลงอย่างช้าๆ เป็นระยะเวลานาน อาจกินเวลานานเป็นเดือนหรือเป็นปีเลยทีเดียว ซึ่งเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญและทำความเข้าใจ

ทำไมโรคไตเรื้อรังถึงน่ารู้?
พบได้บ่อย: โรคไตเรื้อรังเป็นโรคที่พบได้บ่อยขึ้นเรื่อยๆ ทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยด้วยครับ
อาการมักไม่ชัดเจนในระยะแรก: ในระยะเริ่มต้น ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักไม่มีอาการ ทำให้กว่าจะรู้ตัว ไตก็อาจเสื่อมไปมากแล้ว
ภาวะแทรกซ้อนรุนแรง: หากไม่ได้รับการรักษาและดูแลอย่างเหมาะสม โรคไตเรื้อรังสามารถนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงถึงชีวิตได้ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด ภาวะน้ำท่วมปอด และไตวายระยะสุดท้ายที่ต้องได้รับการบำบัดทดแทนไต (ล้างไต หรือปลูกถ่ายไต)
ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต: การเป็นโรคไตเรื้อรังส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ป่วยอย่างมาก ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และเศรษฐกิจ
สามารถป้องกันและชะลอความเสื่อมได้: แม้โรคไตเรื้อรังจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่การดูแลสุขภาพที่ดี การควบคุมปัจจัยเสี่ยง และการรักษาอย่างเหมาะสมสามารถช่วยชะลอความเสื่อมของไตและป้องกันภาวะแทรกซ้อนได้

อะไรทำให้เกิดโรคไตเรื้อรัง?
โรคไตเรื้อรังมักเกิดจากภาวะเรื้อรังที่ทำลายไต เช่น:
โรคเบาหวาน – ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงอาจส่งผลเสียต่อหน่วยกรองขนาดเล็กในไตได้
ความดันโลหิตสูง – ความดันที่เพิ่มขึ้นอาจส่งผลเสียต่อหลอดเลือดในไต
โรคไตอักเสบ – ภาวะอักเสบของหน่วยกรองของไต
โรคไตถุงน้ำหลายใบ – ความผิดปกติทางพันธุกรรมที่ทำให้เกิดซีสต์ในไต

ปัจจัยสนับสนุนอื่นๆ ได้แก่ การสูบบุหรี่ โรคอ้วน โรคหัวใจ และประวัติครอบครัวที่มีปัญหาเกี่ยวกับไต

อาการทั่วไป
โรคไตเรื้อรัง (CKD) เป็นที่รู้จักในชื่อ “โรคเงียบ” เนื่องจากผู้ป่วยจำนวนมากไม่แสดงอาการใดๆ จนกว่าโรคจะลุกลาม อย่างไรก็ตาม สัญญาณเตือนบางอย่าง ได้แก่:
อาการอ่อนเพลียหรืออ่อนแรง
อาการบวมบริเวณข้อเท้าหรือเท้า
ความยากลำบากในการมีสมาธิ
การเปลี่ยนแปลงของการปัสสาวะ
อาการคันเรื้อรัง
อาการหายใจไม่สะดวก

โรคไตเรื้อรังได้รับการวินิจฉัยอย่างไร?
การวินิจฉัยโดยทั่วไปเกี่ยวข้องกับการทดสอบง่ายๆ เช่น:
การตรวจเลือดเพื่อวัดค่าครีเอตินินและประเมินการทำงานของไต (eGFR)
การตรวจปัสสาวะเพื่อตรวจหาโปรตีนหรือเลือด
การตรวจภาพเพื่อดูไต
การตรวจชิ้นเนื้อในบางกรณี เพื่อตรวจสอบสาเหตุของความเสียหายของไต

การรักษาและการจัดการ
แม้ว่าโรคไตเรื้อรังจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถจัดการเพื่อชะลอการดำเนินของโรคและป้องกันภาวะแทรกซ้อนได้ กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่:

การควบคุมความดันโลหิตและน้ำตาลในเลือด
รับประทานอาหารที่เป็นมิตรกับไต (มีเกลือ โปรตีน และฟอสฟอรัสต่ำ)
หลีกเลี่ยงการใช้ยาแก้ปวดและยาบางชนิดมากเกินไป
การเลิกสูบบุหรี่
การออกกำลังกายสม่ำเสมอ
การเข้ารับการตรวจสุขภาพกับแพทย์เป็นประจำ
ในกรณีที่เป็นขั้นสูง ทางเลือกการรักษาได้แก่การฟอกไตหรือ การปลูก ถ่ายไต

เคล็ดลับการป้องกัน
เพื่อป้องกัน CKD หรือลดความเสี่ยง:
รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ดี
หมั่นเคลื่อนไหวร่างกาย
ตรวจวัดความดันโลหิตและระดับน้ำตาลในเลือด
ดื่มน้ำให้มากๆ
หลีกเลี่ยงการใช้เกลือและอาหารแปรรูปมากเกินไป
รับการตรวจสุขภาพเป็นประจำ

โรคไตเรื้อรังเป็นโรคร้ายแรงแต่สามารถรักษาได้ การตรวจพบแต่เนิ่นๆ ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการป้องกันภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง การทำความเข้าใจปัจจัยเสี่ยงและดำเนินการเชิงรุกเพื่อปกป้องไตของคุณ จะช่วยให้คุณมีชีวิตที่แข็งแรงและยืนยาวขึ้น