“กลั้นปัสสาวะ” อาจก่อให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพ และเสี่ยงติดเชื้อในกระแสเลือด

สุขภาพและการดูแลตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการ “กลั้นปัสสาวะ” ในปัจจุบันนี้นั้นดูเหมือนว่าแพทย์ผู้ชำนาญการที่เกี่ยวกับการติดเชื้อ ในกระแสเลือด ได้ออกมาเปิดเผยประเด็นที่สำคัญ จากการกลั้นปัสสาวะธรรมดาทั่วๆไป ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะพบได้ในผู้หญิง เนื่องจากทางเดินปัสสาวะจะสั้นกว่าผู้ชาย จึงทำให้ก่อให้เกิดอาการเชื้อจากภายนอกสู่ภายในร่างกายได้ง่าย กว่าจนนำมาซึ่งความผิดปกติในร่างกายและรวมไปถึง หากไม่ได้เข้ารับการรักษาอย่างถูกต้อง และถูกวิธีอาจจะเข้าสู่การติดเชื้อ ในกระแสเลือดได้เลยทีเดียว 

 

อาการผิดปกติ การกลั้นปัสสาวะ

สำหรับอาการ มักจะพบได้กับผู้ป่วยที่กลั้นปัสสาวะ อยู่เป็นประจำจนเกิดสภาวะติดเชื้อ ในกระแสเลือดซึ่งเริ่มจากการปวดปัสสาวะ อยู่บ่อยครั้งและมีความรู้สึกเหมือน อยากที่จะเข้าห้องน้ำอยู่ตลอดเวลารวมไปถึงสีของปัสสาวะ ที่เปลี่ยนไปเป็นขุ่นและมีกลิ่นเหม็น นอกจากนี้แล้วอาจจะมีอาการของการปวดท้องน้อยและปวดลามมา ถึงบริเวณหลังและเกิดอาการเป็นไข้หนาวสั่น และอ่อนเพลียได้ 

แนวทางในการรักษาอาการติดเชื้อในกระแสเลือด จากการกลั้นปัสสาวะ

แนวทางในการรักษา ที่มีการแนะนำอย่างชัดเจนกับการติดเชื้อในกระแสเลือด จากการเกิดอาการกลั้นปัสสาวะ และพฤติกรรมของผู้ป่วยโดยที่มีการออกมาเปิดเผย ถึงความเสี่ยงทางการแพทย์กับการติดเชื้อจากนั้นรวมไปถึงแพทย์ จะทำการรับผู้ป่วยเข้าสู่ห้องฉุกเฉิน และทำการตรวจสอบอย่างละเอียด และเพื่อดูแลอย่างใกล้ชิดและรวมไปถึง ให้ยาฆ่าเชื้อได้เลยทันทีทันใดอีกด้วย

อีกทั้งยังมีการส่งเสริม การรักษาสภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด ที่มีประสิทธิภาพง่ายมากยิ่งขึ้นผ่านการศึกษาและวิจัยวิเคราะห์เชื้อ ในกระแสเลือดเพื่อที่จะดูผลจากการใช้ยา อย่างถูกต้องและถูกวิธีอีกด้วยและรวมไปถึงการเกิดประสิทธิผลมากที่สุด ซึ่งจึงเป็นอีกหนึ่งการรักษาได้อย่างตรงจุด กับการใช้ยาอย่างครอบคลุมทุกโรค รวมถึงยังมีการวิจัยเพื่อยับยั้งสาเหตุต่างๆ มากมายที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด เพื่อที่จะเป็นการเฝ้าระวังอย่างครบวงจรอีกด้วย

ซึ่งในอนาคตมีการคาดการณ์กันว่า จะมีการต่อยอดนักศึกษาวิจัย เพื่อที่ติดตามผลการศึกษาอย่างใกล้ชิดและละเอียดมากยิ่งขึ้น เพื่อที่ด้วยความรวดเร็วของการเพาะเชื้อ หรือรวมไปถึงการแพ้ยาอาการดื้อยารวมไปถึง การวิเคราะห์ด้วยว่าเชื้อโรคที่ก่อให้เกิดภาวะติดเชื้อ ในกระแสเลือดในแต่ละปีนั้นเป็นอย่างไร และในแต่ละแห่งมีความแตกต่างกันมากน้อย แค่ไหนเพื่อให้ทางการแพทย์ และรวมไปถึงพัฒนาอย่างถูกต้อง ตามแนวทางและรักษาผู้ป่วยอย่างถูกวิธีและเหมาะสมที่สุดอีกด้วย

ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

อีกหนึ่งสิ่งของการรักษา และการป้องกันคือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม กับการไม่กลั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน เพราะอาจจะก่อให้เกิดปัญหาตามมา ในระยะหลังได้ด้วยเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นจึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่มีความจำเป็น และห่างไกลจากสภาวะการติดเชื้อในกระแสเลือด

ด้วยความพยายามของร่างกาย ของตนเองจะต้องออกแบบและออกกำลังกาย ให้แข็งแรงรับประทานอาหารที่ถูกหลักโภชนาการ อย่างสม่ำเสมอและพักผ่อนให้เพียงพอ และที่สำคัญคือหากสังเกตพบอาการที่ผิดปกติ ควรที่จะรีบปรึกษาหรือพบแพทย์ผู้ชำนาญการในทันที