การตรวจสุขภาพเป็นประจำดีอย่างไร เชื่อว่าหลายท่านอาจเคยสงสัยว่าทำไมเราต้องไปตรวจสุขภาพด้วย ทั้ง ๆ ที่ก็แข็งแรงดีไม่ได้เจ็บไข้ได้ป่วยอะไร และความรู้สึกของบางท่านอาจคิดว่าการไปหาหมอนี้จะต้องหมายถึงการเจ็บป่วยเท่านั้น จึงไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องไปตรวจสุขภาพ แต่แท้ที่จริงแล้วการตรวจสุขภาพเป็นประจำเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะสภาวะในปัจจุบันสิ่งแวดล้อมรอบตัวเราเต็มไปด้วยมลพิษ ซึ่งอาจปนเปื้อนมากับอากาศที่เราหายใจเข้าไปหรืออาหารที่เรารับประทาน จนก่อให้เกิดโรคภัยต่าง ๆ ตามมาโดยที่เราไม่คาดคิด
ดังนั้นการตรวจสุขภาพก็เป็นการประเมินเบื้องต้นว่าเรามีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคใดหรือไม่ หากพบแต่เนิ่น ๆ ก็ถือเป็นความโชคดีที่แพทย์จะได้วินิจฉัยและรักษาได้ทันท่วงที รวมทั้งเราจะได้ระมัดระวังตัวในด้านต่าง ๆ เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงไม่ให้เสี่ยงต่อการพัฒนาของโรคร้ายนั้น ๆ เช่น อาหารการกิน สภาพแวดล้อม เหล่านี้เป็นต้น
ส่วนขอบเขตในการตรวจสุขภาพของแต่ละท่านอาจจะไม่เหมือนกัน เพราะองค์ประกอบต่าง ๆ ก็จะก่อให้เกิดโรคที่แตกต่างกันไป เช่น เพศ อายุ กรรมพันธุ์ สภาพแวดล้อม เหล่านี้เป็นเบื้องต้น โดยปกติทั่วไปที่แพทย์จะทำการตรวจนั้นก็จะเริ่มตั้งแต่วัดชีพจรและความดันโลหิตว่าสูงหรือต่ำไปหรือไม่ ตรวจเลือดเพื่อหาความผิดปกติ วัดระดับเคอเรสเตอรอลและน้ำตาลในเส้นเลือด ตรวจเอ็กซเรย์คลื่นหัวใจและการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ ตรวจปัสสาวะเพื่อหาความผิดปกติของตับไต ตรวจเอ็กซเรย์ปอดเพื่อดูว่ามีจุดผิดปกติหรือไม่ แต่ส่วนที่แตกต่างกันระหว่างชายหญิงก็คือ ผู้ชายจะมีการตรวจความเสี่ยงของมะเร็งต่อลูกหมากเป็นพื้นฐาน ส่วนผู้หญิงจะต้องตรวจมะเร็งเต้านมและตรวจมะเร็งปากมดลูกโดยใช้วิธีการตรวจภายใน
แต่หากมีอาการที่ผิดปกติและสันนิษฐานว่าอาจเป็นข้อบ่งชี้ของโรคภัยต่าง ๆ แพทย์ก็จะทำการตรวจจุดนั้นให้ละเอียดลึกลงไปโดยเฉพาะ ซึ่งโดยปกตินั้นเราควรมีการตรวจสุขภาพปีละครั้งเป็นอย่างต่ำ
เห็นไหมล่ะคะว่าการตรวจสุขภาพเป็นประจำ มีข้อดีมากมายเหลือเกิน เพียงแค่เราสละเวลาไม่นานเพื่อแลกกับการดูแลและใส่ใจสุขภาพร่างกายของเราสักนิด เราก็จะสามารถลดภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ ได้ หากเราไม่เป็นอะไรก็สบายใจได้ แต่หากมีอาการอะไรเบื้องต้นเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็จะรักษาได้ทันท่วงที ในทางกลับกันหากเราไม่เคยตรวจสุขภาพเลยนั้นเราจะทราบได้อย่างไรว่าในร่างกายเราอาจมีโรคร้ายกำลังก่อตัวอยู่เงียบ ๆ ก็ได้ อย่างเช่นโรคมะเร็งที่ระยะแรก ๆ จะไม่แสดงอาการอะไรออกมาเลย แต่จะเริ่มแสดงเมื่อเข้าสู่ระยะที่สามและระยะสุดท้ายที่เป็นระยะแพร่กระจายซึ่งจะทำให้รักษาลำบาก ดังนั้น สละเวลาสักนิดไปตรวจสุขภาพเป็นประจำเพื่อร่างกายของคุณและคนที่คุณรักกันเถอะค่ะ