ชาปลายมือ ชาปลายนิ้ว อาจเป็นสัญญาณอันตรายที่บอกว่าร่างกายกำลังแย่

ชาปลายมือ ชาปลายนิ้ว อาจเป็นสัญญาณอันตรายที่บอกว่าร่างกายกำลังแย่ อาการชาเรียกได้ว่าเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้บ่อย จนหลายคนแทบจะไม่สนใจ เพราะคิดว่าเป็นไม่นาน นวดนิดเดียวเดี๋ยวอาการเหล่านั้นก็หายไป ไม่มีอะไรร้ายแรง แต่รู้ไหมว่าจริงๆ แล้วอาการชาที่เกิดขึ้นเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นชาปลายนิ้ว ชาปลายมือ หรือชาที่ปลายเท้า อาจเป็นสัญญาณเตือนโรคร้ายที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของเราได้ ดังนั้นวันนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าอาการชาแบบไหน ที่อาจส่งผลร้ายกับร่างกายเรา

1.ชาปลายเท้าและปลายมือเข้าหาลำตัว
อาการชาแบบนี้ มักมีสาเหตุมาจากการอักเสบของปลายประสาทหรือปลายประสาทเสื่อม เนื่องจากร่างกายขาดสารอาหารที่สำคัญ อย่างเช่น วิตามินบี 1 วิตามินบี 6 หรือ วิตามินบี 12 และอาจเป็นสัญญาณเตือนที่เกิดขึ้นของโรค โรคไต โรคมะเร็ง เป็นต้น

2.ชาปลายนิ้วมือเกือบทุกนิ้ว แต่นิ้วก้อยไม่ชาหรือชาน้อยที่สุด
อาการเช่นนี้มักจะเกิดขึ้นตอนกลางคืนหรือตอนตื่นนอน แต่ถ้าหากเกิดขึ้นในตอนกลางวันมักจะมีสาเหตุมาจากการทำท่าบางประการที่ไม่เหมาะสมหรือทำต่อเนื่องเป็นเวลานาน เช่น ชูมือสูง ขี่มอเตอร์ไซค์ คุยโทรศัพท์ หรือใช้มือทำงานบางอย่างอย่างหนัก จนเส้นเอ็นกดทับเส้นประสาทตรงข้อมือ เป็นอาการที่ไม่รุนแรงมาก เพียงแต่เปลี่ยนอิริยาบถหรือลดการใช้มือข้างที่ชาลง

3.ชาที่บริเวณนิ้วก้อย นิ้วนาง และขอบมือด้านเดียวกัน แต่ไม่เลยเกินข้อมือ
การชาแบบนี้มักจะเกิดขึ้นหลังจากเส้นประสาทถูกกดทับตรงข้อศอก เพียงแต่เปลี่ยนท่าหรือลดการใช้งานมือข้างที่ชาลงก็จะช่วยได้ แต่หากว่ารู้สึกชาเลยข้อมือขึ้นมาจนถึงข้อศอก มักจะมีสาเหตุมาจากเส้นประสาทถูกกดทับบริเวณกระดูกไหปลาร้า หากเป็นเช่นนี้ควรปรึกษาแพทย์ทันที

4.ชาหลังมือไม่เกินข้อมือ โดยเฉพาะบริเวณง่ามระหว่างนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้
อาการชาประเภทนี้มักเกิดจากเส้นประสาทถูกกดทับที่ต้นแขน หากคุณรู้สึกเช่นนี้ควรเลี่ยงการนั่งเอาแขนพาดพนักเก้าอี้ แต่ถ้ารู้สึกชาเลยขึ้นมาถึงแขน อาจเป็นเพราะเส้นประสาทบาดเจ็บบริเวณรักแร้

5.ชาเป็นแถบตั้งแต่แขนลงไปถึงนิ้วมือ
อาการแบบนี้มักมีสาเหตุจากกระดูกต้นคอเสื่อม และมีผลต่อการกดทับเส้นประสาท ใครที่รู้สึกเช่นนี้อย่านิ่งนอนใจและควรรีบไปปรึกษาแพทย์จะดีกว่า

6.ชาหลังเท้าขึ้นมาถึงหน้าแข้ง
ใครที่ชอบนั่งไขว่ห้างจะต้องเคยรู้สึกชาในลักษณะนี้อย่างแน่นอน เพราะว่าจะทำให้เส้นประสาทถูกกดทับบริเวณใต้เข่าด้านนอก นอกจากนี้การนั่งขัดสมาธิ และนั่งพับเพียบเป็นเวลานานก็จะส่งผลให้มีอาการชาแบบนี้เช่นกัน

7.ชาเป็นแถบจากสะโพกลงไปถึงเท้า
อาการชาแบบนี้ค่อนข้างอันตราย เพราะว่าเกิดจากหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนทับเส้นประสาท หากละเลยหรือรักษาไม่ถูกวิธีอาจจะทำให้พิการได้ ดังนั้นใครเป็นแบบนี้รีบไปหาหมอโดยด่วน อย่าเฉย…เมื่อชา