ตรวจสุขภาพเบื้องต้น สำหรับทุกคนและทุกวัย การตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอช่วยให้คุณอุ่นใจและคลายกังวลจากปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เพราะการตรวจสุขภาพเป็นการตรวจสำหรับผู้ที่ยังไม่มีอาการผิดปกติใดๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อค้นหาความเสี่ยงของโรค หรือโรคและภาวะต่างๆที่ยังไม่แสดงอาการ ซึ่งการพบปัญหาแต่เนิ่นๆ ไม่เพียงช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาให้ประสบความสำเร็จ ลดความรุนแรงและภาวะแทรกซ้อนของโรคเท่านั้น แต่ยังเป็นการลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพในระยะยาวอีกด้วย
การตรวจสุขภาพจะต้องตรวจอะไรบ้างและตรวจถี่ขนาดไหนนั้นขึ้นอยู่กับอายุ สุขภาพโดยรวม ประวัติครอบครัว และรูปแบบการใช้ชีวิตของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปแล้วโปรแกรมตรวจสุขภาพเบื้องต้นจะแบ่ง ตามเพศและอายุ โดยแพทย์แนะนำให้ตรวจทุก 1 ปี สำหรับผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษอาจจำเป็นต้องมีการตรวจเพิ่มเติมและตรวจบ่อยขึ้น
สำหรับสุภาพสตรี ภาวะการเจ็บป่วยที่พบได้บ่อยและมีความรุนแรงถึงชีวิต ได้แก่ โรคมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม อย่างไรก็ตาม โรคมะเร็งทั้งสองชนิดสามารถรักษาให้หายขาดได้หากตรวจพบแต่เนิ่นๆ ดังนั้นการตรวจคัดกรองโรคจึงสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะในผู้ที่มีความเสี่ยง
ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก
สตรีทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ 21 ปีขึ้นไป หรือ 3 ปีหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ขึ้นกับว่าเวลาใดถึงก่อน ควรเริ่มทำการตรวจ หลังจากนั้นทำการตรวจทุก 1-2 ปี
สตรีที่มีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป ควรตรวจทุกปี หากผลตรวจเป็นปกติติดต่อกัน 3 ปี สามารถตรวจทุก 3 ปีได้ ยกเว้นกลุ่มที่มีความเสี่ยงของมะเร็งปากมดลูก เช่น มีการติดเชื้อ HIV ติดเชื้อ HPV ทั้งนี้เพราะหลังจากได้รับเชื้อไวรัส HPV แล้ว มีโอกาสที่จะค่อยๆเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นในเนื้อเยื่อชั้นผิวของปากมดลูกหรือที่เรียกว่าระยะก่อนมะเร็ง (pre-cancer) โดยร่างกายไม่แสดงอาการผิดปกติแต่อย่างใด และอาจเปลี่ยนแปลงกลายเป็นมะเร็งปากมดลูกได้ในที่สุด
การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกตั้งแต่ระยะก่อนมะเร็ง สามารถทำได้ 2 รูปแบบคือ
การตรวจมะเร็งปากมดลูกระยะเริ่มแรก ด้วยการตรวจแปปสเมียร์ (Pap Smear หรือ Pap Test) ซึ่งแพทย์จะเก็บเซลล์จากปากมดลูกแล้วนำส่งตรวจเพื่อหาเซลล์ผิดปกติที่อาจพัฒนาไปเป็นมะเร็งได้
การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยการหาเชื้อ HPV เป็นการตรวจทางชีวโมเลกุลเพื่อหาเชื้อไวรัส HPV โดยตรง ซึ่งเป็นการตรวจที่มีความแม่นยำอย่างมาก
ตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม
มะเร็งเต้านม เป็นโรคมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับหนึ่งของผู้หญิงไทย โดยความเสี่ยงของการเป็นโรคจะเพิ่มขึ้นตามอายุ แพทย์จึงแนะนำให้ท่านที่อายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป เข้ารับการตรวจมะเร็งเต้านมด้วยเครื่องดิจิตอลแมมโมแกรมพร้อมอัลตราซาวนด์เต้านมทุก 1-2 ปี
การตรวจด้วยเครื่องดิจิตอลแมมโมแกรมให้ภาพที่มีความคมชัดสูง สามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างเนื้อเยื่อบริเวณเต้านมที่มีความหนาแน่นต่างกันได้อย่างชัดเจน การอ่านผลการตรวจจึงมีข้อผิดพลาดน้อย และเมื่อตรวจร่วมกับการทำอัลตราซาวนด์ก็ยิ่งทำให้ผลการตรวจมีความถูกต้องแม่นยำมากขึ้น