รับประทานผักเพื่อสุขภาพอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด ผักนั้นขึ้นชื่อว่าดีต่อสุขภาพ ผักส่วนใหญ่นั้น จะมีแคลลอรี่ต่ำ แต่จะมีวิตามิน เกลือแร่ และไฟเบอร์นั้นสูงมาก อย่างไรก็ตาม ยังมีผักบางชนิดที่มีความโดดเด่นกว่าผักชนิดอื่น ๆ ด้วยประโยชน์ต่อสุขภาพที่ได้มีการพิสูจน์แล้ว เช่น ความสามารถในการต่อสู้กับการอักเสบหรือลดความเสี่ยงต่อโรค
“ผัก” จัดอยู่ในอาหารหมู่ที่ 5 คือวิตามินและเกลือแร่ ซึ่งทั้งที่มีประโยชน์และจำเป็นต่อร่างกาย โดยส่วนใหญ่ผักจะอุดมไปด้วย วิตามิน เอ วิตามินบี วิตามินซี โพแทสเซียม แมงกานีส สังกะสี ฟอสฟอรัสและอื่นๆขึ้นอยู่กับชนิดของผัก โดยในบางครั้งกรรมวิธีในการปรุงอาหารก็มีส่วนทำให้สารอาหารในผักเพื่อสุขภาพหลายๆ ชนิดลดลงไปบ้างไม่มากก็น้อย เทศกาลกินเจปีนี้ สุขภาพดีนำเสนอวิธีรับประทานผักเพื่อสุขภาพอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด
ผักเพื่อสุขภาพ ที่ควรรับประทานสด ได้แก่ผักที่มีวิตามินซีสูง เช่นแครอท แตงกวา และมะเขือเทศ โดยนอกจากจะมีวิตามินซีแล้ว ผักต่างๆเหล่านี้ยังมี วิตามินเอ วิตามินบี เหล็ก ฟอสฟอรัส และเบต้าแคโรทีน ซึ่งช่วยบำรุงสายตาและช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง นอกจากนั้นยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่สามารถป้องกันมะเร็งได้อีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามสารอาหารเหล่านี้ก็สามารถสลายไปพร้อมกับการปรุงอาหารได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิตามินจะสลายตัวเมื่อได้รับความร้อน ดังนั้นหากรับประทานแบบสดๆ ก็จะได้สารอาหารครบถ้วนมากกว่านำไปปรุงสุกนั่นเอง
แต่ในความเป็นจริงการรับประทานผักสดอาจดูไม่ง่ายนัก เนื่องจากผักสดส่วนใหญ่มักจะมีกลิ่นฉุนและรสชาติเฉพาะตัว ดังนั้นวิธีการรับประทานผักสดให้อร่อยควรรับประทานเป็นสลัด ซึ่งน้ำสลัดและผลไม้ชนิดอื่นๆที่เติมลงไปจะทำให้ผักสดรสชาติดีขึ้น หรืออีกวิธีหนึ่งคือการนำผักและผลไม้มาปั่นรวมกันเป็นเครื่องดื่ม เติมเกลือเล็กน้อยเพื่อปรับรสชาติจากนั้นนำไปแช่เย็นเพื่อให้ได้ความสดชื่น ก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่ดีทีเดียว
ผักเพื่อสุขภาพ ที่ควรปรุงให้สุกก่อนรับประทาน ส่วนใหญ่จะมีสารเฉพาะตัวที่หากรับประทานสดจะส่งผลเสียกับร่างกายมากกว่าผลดี เช่นในกะหล่ำปลีสดจะมีสารกอยโตรเจน ซึ่งส่งผลต่อการดูดซึมสารไอโอดีนในร่างกาย ดังนั้นหากรับประทานมากเกินไปก็จะส่งผลต่อต่อมไทรอยด์และทำให้เป็นโรคคอพอกได้ ซึ่งสารชนิดนี้นอกจากจะมีกะหล่ำปลีแล้ว ยังสามารถพบในบล็อกโคลี่และผักกาดขาว ซึ่งนิยมนำมารับประทานสดๆคู่กับน้ำพริกอีกด้วยถึงแม้ในทางการแพทย์จะระบุไว้ว่าต้องรับประทานในปริมาณมากถึงจะส่งผลต่อร่างกายอย่างเห็นได้ชัด แต่เพื่อความปลอดภัยในระยะยาวก็ควรนำไปปรุงให้สุกเสียก่อนหรือหากชอบรับประทานแบบสดๆก็ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมและรับประทานผักชนิดอื่นร่วมด้วย
อย่างไรก็ตามหลายคนยังคงมีความเชื่อที่ว่าความร้อนจากกรรมวิธีในการปรุงอาหารจะทำให้สารอาหารอาหารหรือวิตามินต่างๆในผักเพื่อสุขภาพสูญเสียไป ดังนั้นหากจำเป็นต้องปรุงผักให้สุกก่อนรับประทานควรใช้ความร้อนน้อยที่สุดและรับประทานทันทีเพื่อคงคุณค่าของสารอาหารให้ได้มากที่สุด และควรใช้วิธีผัดหรือต้มแทนการลวกเนื่องจากวิตามินที่ออกมาจะยังคงอยู่ในน้ำผัดหรือน้ำแกง ซึ่งหากเรานำมาราดข้าวหรือซดร้อนๆก็จะยังคงได้รับสารอาหารที่ค่อนข้างครบถ้วนอยู่
จะเห็นได้ว่าผักแต่ละชนิดมีวิธีในการรับประทานต่างกัน หากอยากรับประทานให้ได้สารอาหารครบถ้วน ก็ควรเลือกชนิดของผักและวิธีการรับประทานให้ถูกต้อง เพียงเท่านี้เราก็จะได้ทานผักเพื่อสุขภาพ ที่ให้ประโยชน์สูงสุดกับร่างกายและดีต่อสุขภาพของเราในทุกๆ วัน ทุกๆ มื้ออาหาร