สุขภาพ : วิธีถนอม “ข้อเข่า” ไม่ให้เสื่อมก่อนวัยอันควร

สุขภาพ : วิธีถนอม “ข้อเข่า” ไม่ให้เสื่อมก่อนวัยอันควร

สุขภาพ : วิธีถนอม “ข้อเข่า” ไม่ให้เสื่อมก่อนวัยอันควร ถ้าลองนึกว่าคุณไม่สามารถเดินได้เหมือนเดิม ต้องนั่งรถเข็น หรือไม่สามารถไปที่ไหนได้ตามที่ใจตัวเองอยากไป สิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตคงเป็นเหมือนฝันร้ายที่ไม่มีใครอยากเผชิญ สิ่งเหล่านี้อาจเกิดขึ้นกับคุณวันใดวันหนึ่ง หากคุณละเลยวิธีการดูแลเข่าที่ถูกต้อง และเป็นเหตุผลที่ทำให้ข้อเข่าเสื่อมลงในที่สุด

แม้ว่าเข่าจะเป็นอวัยวะที่ไม่ค่อยมีหน้าที่มากเท่ากับอวัยวะอื่นๆ แต่ถ้าคุณขาดมันไป นั่นหมายความถึงการไม่สามารถคลื่อนไหวได้อีก ทั้งนี้ เพราะ เข่าเป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญของการเดิน ยื่น หรือวิ่ง ทำให้คุณสามารถเคลื่อนไหวไปได้ตามใจปรารถนา แต่ก็น่าน้อยใจที่อวัยวะส่วนนี้มักจะถูลืม เพราะมัวแต่ไปสนใจอวัยวะอื่นๆมากกว่า และคิดว่ามันไม่น่าจะมีผลต่อการใช้ชีวิตของเรามากนัก ทำให้วันนี้เราจำเป็นต้องมาเข้าใจเข่าให้มากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้คุณต้องนั่งอยู่กับที่ไปตลอดชีวิตนั่นเอง

ลดน้ำหนัก
ส่วนสำคัญที่จะรักษาสุขภาพข้อเข่าเอาไว้ได้ นั่นคือการลดภาระในการแบกรับน้ำหนักทั้งตัวของเราของข้อเข่าลงให้ได้มากที่สุด ทราบหรือไม่ว่าหากเราลดน้ำหนักลงได้ 0.45 กิโลกรัม เราจะสามารถลดแรงดันในเข่าได้มากเท่ากับน้ำหนัก 1.35 กิโลกรัมเลยทีเดียว (และยังลดแรงดันในกระดูกข้อต่อของสะโพกได้มากถึง 2.7 กิโลกรัมอีกด้วย) หากคุณเป็นโรคปวดข้อ เพียงลดน้ำหนักลงไปได้ราว 6.8 กิโลกรัม จะสามารถบรรเทาอาการปวดเข่าไปได้ครึ่งหนึ่ง นอกจากนี้หากรีบลดน้ำหนักก่อนที่จะมีอาการปวดเข่า จะสามารถลดความเสี่ยงในการเป็นโรคข้อเข่าจนต้องเข้ารับการผ่าตัดได้อีกด้วย

หากกังวลว่าข้อเข่าไม่ค่อยแข็งแรงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว สามารถออกกำลังกายเพื่อช่วยลดน้ำหนักของร่างกายด้วยวิธีที่ไม่รบกวนการทำงานของกระดูกข้อเข่ามากเกินไปได้ เช่น ว่ายน้ำ เดิน หรือขี่บนเครื่องออกกำลังกายอย่างจักรยาน เป็นต้น

สุขภาพ : วิธีถนอม “ข้อเข่า” ไม่ให้เสื่อมก่อนวัยอันควร

ระมัดระวังในการใช้งานข้อเข่า
ไม่ว่าจะเป็นส่วนไหนของร่างกายก็ควรให้ความสำคัญกับการใช้งานอย่างทะนุถนอม เช่นเดียวกับข้อเข่าที่อาจสะสมการใช้งานอย่างหนักมาแรมปี จนเกิดอาการบาดเจ็บ อักเสบ หรือเสื่อมการใช้งานลงได้ นอกจากการลดการกระแทกกระทั้นโดยไม่มีการวอล์มร่างกายก่อน หรือใช้งานเข่าหนักโดยไม่จำเป็นแล้ว การยืน เดินหลังตรง ก็ช่วยลดความเสี่ยงของอาการปวดเข่าได้เช่นกัน รวมไปถึงรักษาสภาพของกระดูกคอ และสะโพกในคราวเดียวกันด้วย

นอกจากนี้ยังควรระมัดระวังในการยกของหนัก ควรยกให้ถูกท่า โดยลงไปนั่งยองๆ หลังตรง จับของไว้ แล้วยกขึ้นมาช้าๆ ด้วยแรงดันจากเท้า น่องขา และเข่า ไม่ก้มตัวลงไปยกของหนักจากพื้นหรือที่ต่ำๆ แล้วยกขึ้นมาทีเดียวเร็วๆ เพราะอาจทำให้เกิดอาการเคล็ดขัดยอกตามบริเวณต่างๆ ของร่างกายได้ หากยกของหนักๆ แล้วทำให้เกิดอาการบาดเจ็บที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย ให้รีบหยุดยกทันที

ลดอาการปวดทันที
เมื่อมีอาการปวดเข่า อย่าปล่อยให้มีอาการปวดแบบนั้นอยู่นานๆ ควรรีบรักษาอาการปวดด้วยการหายาแก้ปวดมาทาน สามารถเลือกกลุ่มยาตระกูล NSAIDs อย่าง ไอบูโพรเฟน หรือนาโปรเซนได้ ยาสองชนิดนี้สามารถหาซื้อทานได้ตามร้านขายยาทั่วไป ควรทานตามคำแนะนำของเภสัชกรอย่างเคร่งครัด แต่หากมีประวัติแพ้ยาตระกูล NSAIDs หรือไม่แน่ใจในอาการปวดข้อของตัวเอง ควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ก่อนทานยา เพราะยาตระกูล NSAIDs อาจมีผลข้างเคียงในบางรายได้ เช่น ปวดท้อง มีเลือดออกในกระเพาะอาหาร หรือ ตับ/ไตได้รับความเสียหาย เป็นต้น

หากไม่เคยมีประวัติแพ้ยาตระกูล NSAIDs สามารถทานยาภายใต้คำแนะนำของเภสัชกรได้ และควรใช้บรรเทาอาการปวดในระยะสั้นๆ เท่านั้น ไม่ควรทานยาแก้ปวดติดต่อกันเกิน 5 วัน หากอาการปวดไม่ดีขึ้นภายใน 5 วัน ควรรีบปรึกษาแพทย์