สุขภาพ : โรคหลอดเลือดหัวใจ ในอดีตเราอาจจะเข้าใจว่าโรคหัวใจเกิดขึ้นได้กับผู้สูงอายุ แต่ปัจจุบันโรคหัวใจมีโอกาสเกิดได้แม้แต่กับเด็กทารกที่เพิ่งคลอดออกมาลืมตาดูโลก หรือแม้แต่คนในวัยอายุ 20 ปีเท่านั้น ซึ่งข้อมูลที่น่าสนใจคือ โรคหลอดเลือดหัวใจแบ่งได้ 2 ลักษณะ คือ
-แบบเรื้อรัง เกิดจากไขมันมาเกาะสะสมอยู่ที่ผนังหลอดเลือดทำให้เยื่อบุผนังหนาขึ้น หลอดเลือดตีบลง ทำให้เลือดนำออกซิเจนไหลผ่านได้น้อยลง ส่งผลให้กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด มีอาการเจ็บหน้าอกในช่วงที่ผู้ป่วยออกแรงเยอะ ๆ แต่เมื่อหยุดพักอาการ ก็จะดีขึ้น
-แบบเฉียบพลัน เกิดจากคราบไขมันที่เกาะอยู่ที่ผนังของหลอดเลือดชั้นในนี้ได้ปริแตกออกและกลายเป็นลิ่มเลือด จนอุดตัน ส่งผลให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หรือกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน นำไปสู่การเสียชีวิตกะทันหันจากภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น หัวใจล้มเหลว หัวใจวาย หัวใจห้องล่างซ้ายเต้นผิดจังหวะชนิดร้ายแรง
อาการส่อเค้าที่ต้องเฝ้าระวัง
อาการเบื้องต้นที่ส่อเค้าว่ามีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ จะมีอาการเหนื่อยง่ายเมื่อออกแรง เจ็บแน่นหน้าอกอย่างรุนแรงเหมือนมีอะไรมากดทับ ปวดร้าวไปที่กราม คอหอย แขนด้านซ้าย สะบักหลัง มีอาการใจสั่น ซีด เหงื่อออกมาก จุกที่บริเวณคอหอย จุกใต้ลิ้นปี่คล้ายโรคกระเพาะหรือกรดไหลย้อน หน้ามืดคล้ายจะเป็นลม และอาจหมดสติ
แบบไหนเข้าเกณฑ์กลุ่มเสี่ยง
ผู้ที่มีคนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคหัวใจ ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง สูบบุหรี่เป็นประจำ ผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี ผู้ที่ออกกำลังกายน้อย น้ำหนักเกินมาตรฐาน และผู้ชายมีโอกาสเป็นโรคนี้ได้มากกว่าผู้หญิง
เครื่องมือตรวจวินิจฉัยแม่นยำปลอดภัยสูง
ปัจจุบันการตรวจหลอดเลือดหัวใจด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ความเร็วสูง CT Scan 128 Slice นับว่ามีความแม่นยำและปลอดภัยสูง แม้แต่ผู้ป่วยเด็กก็สามารถตรวจได้ ใช้เวลาตรวจไม่นาน ผู้ป่วยได้รับรังสีเอ็กซเรย์น้อยลงกว่า 82% แสดงผลตรวจออกมาเป็นภาพ 3 มิติ สามารถดูภาพในระนาบต่าง ๆ ของหัวใจได้ ช่วยให้แพทย์สามารถวินิจฉัยโรคได้ถูกต้องแม่นยำมากยิ่งขึ้น
วิธีรักษาตามความรุนแรงของโรค
ในระดับที่ไม่รุนแรงมากนัก แพทย์จะรักษาด้วยยา เช่น ยาต้านเกล็ดเลือด ยาต้านการแข็งตัวของลิ่มเลือด ยาควบคุมการเต้นของหัวใจ ยาลดไขมัน ยาควบคุมความดันโลหิต เป็นต้น และวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ การทำบอลลูนเพื่อรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจ สำหรับผู้ที่มีหลอดเลือดหัวใจอุดตันไปแล้วกว่า 70% แพทย์จะใช้วิธีการทำบายพาสหัวใจ นอกจากนี้ยังมีการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจในกรณีที่โรคมีระดับรุนแรงมากและไม่สามารถรักษาด้วยวิธีอื่นได้แล้ว