การจัดฟันเป้าหมายหลักคือแก้ไขปัญหาสภาพฟันที่มีปัญหา ช่วยให้ฟัสุขภาพฟันดีขึ้น โดยทำให้ฟันเรียงตัวสวย ช่วยให้แปรงฟันได้สะอาด ลดการเกิดฟันผุ เหงือกอักเสบ การสบฟันที่ดี เคี้ยวอาหารได้ละเอียดขึ้น รวมถึงฟันสวยขึ้น ทำให้ยิ้มสวย เสริมบุคลิกภาพ
แต่ปัจจุบันวัยรุ่นส่วนใหญ่มักจัดฟันทั้งที่ฟันไม่ได้มีปัญหาอะไรเพราะกลายเป็นกระแสนิยม ดังนั้นแอดมินมีรายละเอียดให้น้องๆหรือใครก็ตามที่คิดจะจัดฟันคิดสักนิด ก่อนจะทำว่าคุ้มหรือไม่ มีความจำเป็นแค่ไหน และคำนึงถึงปัจจัยต่างๆที่จะเกิดตามมา
ลักษณะฟัน 7 แบบที่ควรจะต้องจัดฟัน
- ฟันบนยื่น
- ฟันล่างยื่น
- ฟันกัดคร่อม
- ฟันสบเปิด
- ฟันกัดเบี้ยว
- ฟันห่าง
- ฟันซ้อน
เช็คข้อดี -ข้อเสีย ก่อนตัดสินใจจัดฟัน
ข้อดีของการจัดฟัน
-ช่วยแก้ปัญหาสุขภาพฟันและช่องปาก เพราะก่อนการจัดฟันจะต้อ งดูแลช่องปากก่อนที่ทันตแพทย์จะทำการจัดฟัน เช่น รักษาฟันผุ อุดฟัน การผ่าฟันคุด ขูดหินปูน ทำให้สุขภาพในช่องปากที่เคยมี ปัญหาได้รับการแก้ไข
-ทำให้เรามีระเบียบวินัยในการใส่ใจสุขภาพช่องปากและฟันมากขึ้น เพราะการจัดฟัน กว่าฟันจะเข้าที่ตามที่เราต้องการต้องใช้เวลานาน อย่างน้อยก็ 2 ปีขึ้นไป จึงทำให้เราต้องมีวินัยในการทำความสะอาด ฟันและช่องปากมากขึ้น และนิสัยนี้จะติดไป ถึงแม้จะถอดเครื่องจัด ฟันแล้วก็ตาม เป็นข้อดีที่ทำให้ฟันสวยๆอยู่คู่เราไปอีกนานนะจ๊ะ
-การจัดฟันไม่ใช่แค่การแก้ไขปัญหาฟันภายในช่องปากเท่านั้น ฟัน สวยๆยังช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพให้เราดูดี ดูโดดเด่นขึ้นอีกเยอะทำให้เราดูมั่นใจ บางคนหน้าสวยขึ้นโดยไม่ต้องทำศัลยกรรมเลย ถึงจะเป็นผลพลอยได้แต่ก็คุ้มค่าค่ะ
-การจัดฟันช่วยให้การสบฟันถูกต้อง จริงๆแล้วหน้าที่หลักของฟันคือ การบดเคี้ยวอาหาร การจัดฟันจึงช่วยให้ฟันเคี้ยวอาหารได้ดียิ่งขึ้น ส่วนฟันเรียงตัวสวย ทำให้หน้าสวย ยิ้มสวย เป็นผลพลอยได้
ข้อเสียของการจัดฟัน
-เจ็บตัว อึดอัด ต้องอดทนมากๆด้วย เพราะการจัดฟันต้องใช้ระยะ เวลาในการรักษานาน ประมาณ 2-4 ปี หรือบางรายมากกว่านั้น เราต้องอดทนกับความอึดอัดที่ต้องใส่เครื่องจัดฟันเป็นเวลานาน เวลาทำความสะอาดก็ลำบากและใช้เวลานาน ถ้าไม่อดทนและใส่ ใจจริง อาจจะทำให้เราฟันผุและฟันเหลืองได้
-เสียเงินเยอะ ถึงแม้จะไม่ได้จ่ายครั้งเดียวเป็นก้อน แต่ก็ต้องยอมรับว่า การจัดฟันราคาสูงพอสมควร และต้องมีเงินจ่ายทุกเดือนๆ ก่อน ทำการจัดฟันต้องคำนวณค่าใช้จ่ายให้ดี หากไม่มีกำลังพอ หรือไม่ พร้อมก็ไม่ควรทำตั้งแต่แรก
-ใช้เวลานาน การจัดฟัน เราต้องรู้ว่าเครื่องจัดฟันจะอยู่ในปากเราไป อีกหลายปี แน่นอนว่าการทำกิจกรรมต่างๆ การพูดคุย การพบปะ ผู้คน มันจะต้องเจอปัญหาต่างๆ
-แปรงฟันยาก กินอาหารลำบาก แน่นอนว่าการมีเครื่องจัดฟันอยู่ใน ปาก มันก็จะทำอะไรไม่สะดวกอยู่แล้ว การแปรงฟันหรือการกิน อาหารจึงต้องใส่ใจเป็นพิเศษกว่าคนปกติ
-ระหว่างจัดฟันหากรักษาฟันไม่ดี มีโอกาสทำให้ฟันผุ ฟันเหลือง มี กลิ่นปาก และเป็นโรคเหงือกได้ง่าย
-ปัญหาการเรียงตัวหลังการจัดฟัน หลังจากถอดเครื่องจัดฟันแล้ว หากเราใส่เครื่องมือคงสภาพฟัน หรือ รีเทนเนอร์เป็นประจำจะทำให้ฟันคงรูปเรียงตัวสวย หากไม่ใส่รีเท นเนอร์มีแนวโน้มฟันจะกลับไปสู่สภาพเดิมจากแรงของเนื้อเยื่อ ภายในช่องปาก ส่วนจะใส่รีเทนเนอร์นานแค่ไหนขึ้นอยู่กับดุลพินิจ ของทันตแพทย์ แต่โดยปกติก็ประมาณ 1 ปี
จัดฟันตอนแก่ดีไหม
ต้องถามตัวเองก่อนว่า เราอยากจัดฟัน เพื่ออะไรกันแน่ เรามีปัญหาการสบฟันหรือเปล่า มีปัญหาฟันห่าง หันเก ฟันซ้อน หรือเปล่า หรือมีปัญหาสุขภาพฟันและช่องปากหรือเปล่า เพราะ การจัดฟันไม่ได้ทำเพื่อความสวยความงามเท่านั้น การจัดฟันยังช่วยแก้ ไขปัญหาสุขภาพฟันและช่องปากด้วยอายุมากก็จัดฟันได้
คนวัย 30-60 ปี หากมีปัญหาฟัน เช่น ฟันหน้าห่าง ฟันยื่น ฟันซ้อน ก็สา มารถจัดฟันได้ค่ะ หากมีความพร้อม เพราะการจัดฟันสามารถทำได้เกือบ ทุกช่วงอายุ ไม่มีข้อห้ามของการจัดฟัน หากมีปัญหาสุขภาพฟันและช่อง ปากแนะนำเข้าไปพบทันตแพทย์เพื่อรับคำปรึกษาและวางแผนการรักษาได้
ประเภทของการจัดฟัน
การจัดฟันมีหลายแบบ สามารถเลือกใช้ได้ตามเหมาะสมและคำแนะนำของหมอฟันค่ะ ลองมาดูลักษณะของแต่ละประเภทแบบคร่าวๆกันนะคะ ซึ่งทั้งหมดก็จะมีค่าใช้จ่ายแตกต่างกันไป เรทเริ่มต้นตั้งแต่ราวๆ 30,000 บาทไปจนถึงแสนกว่าบาท
1.จัดฟันแบบโลหะ(ด้านนอก) Metal
ลักษณะของมันก็ตามชื่อเลยคือ จะเป็นการนำลวดมายึดบนผิวฟันด้านนอก ประเภทนี้นิยมใช้กันมากที่สุดนะคะ อย่างที่เราเห็นคนใส่ลวดดัดฟันที่เป็นโลหะมีสียางกันบ่อยๆนั่นแหละค่ะ(จนไม่แน่ใจแล้วว่ากลายเป็นแฟชั่นไปแล้วหรือยังไง) ซึ่งข้อดีของมันคือ ราคาถูกกว่าชนิดอื่น มีสียางให้เลือกมากมาย ซึ่งจัดฟันแบบนี้ วัยรุ่นชอบ
2.จัดฟันแบบโลหะ(ด้านใน) Lingual
สำหรับวิธีนี้ หมอฟันจะนำลวดไปยึดกับผิวฟันด้านในค่ะ อาจจะเป็นวิธีที่ใครหลายๆคนสนใจเพราะเวลายิ้มหรือพูดกับใคร ก็จะไม่ต้องกลัวเลยว่าคนอื่นจะรู้ว่าเราจัดฟันอยู่ เพราะตัวเครื่องมือถูกซ่อนอยู่ด้านใน ไม่มีใครเห็นค่ะ แต่ทั้งนี้ก็มีข้อจำกัดอยู่ คือการติดที่ด้านในจะยุ่งยากซับซ้อนกว่าติดที่ด้านนอก เนื่องจากผิวฟันบริเวณนั้นจะมีลักษณะที่แตกต่างกันไปค่ะ นอกจากนี้ มีความรำคาญสูง พูดทานอาหารลำบาก ทำความสะอาดยากมากค่ะ ราคาก็สูง
3.จัดฟันแบบเซรามิค
การจะฟันแบบนี้จะทำโดยติดแบรคเกตเซรามิคไว้กับผิวฟันด้านนอก สีจะขาวกลืนไปกัลผิวฟัน จากนั้นจึงนำลวดมายึดติดไว้เพื่อดัดให้ฟันเรียงตัวกันอย่างสวยงาม ข้อดีของมันคือสีจะเหมือนฟันจริงของเรามาก เพราะฉะนั้นถึงจะติดโชว์ข้างหน้าแต่ก็จะมองเห็นไม่ชัด ยกเว้นมองใกล้ๆ แต่ข้อเสียคือราคามันจะแพงกว่าแบบโลหะมาก เพราะเซรามิคต้องออกแบบมาพิเศษ และนอกจากนี้ยังมีความเปราะบางมากกว่าแบบโลหะด้วยค่ะ
4.จัดฟันแบบใส(invisible braces)
เป็นประเภทการจัดฟันที่กำลังได้รับความนิยมตอนนี้ โดยจะแบ่งเป็น
การจัดฟันแบบใสแบบ manual หรือ clear alingner จะวางแผนการรักษาและทำชิ้นงานด้วยมือคน ต้องพิมพ์ฟันบ่อย ทำชิ้นงานได้สูงสุด 4 เดือน
5.จัดฟันแบบดาม่อนหรือเทคนิค self ligate
เป็นการจัดฟันแบบใส่เหล็ก แต่ออกแบบแบรคเกตให้ดูแปลกไปกว่าเดิม ช่วยให้ฟันขยับเร็วขึ้น
ความพิเศษของแบบนี้คือ เวลาติดลวดดัดเข้าไปแล้วจะไม่ต้องใช้ยางมารัด นอกจากนี้ยังมีข้อดีหลายอย่าง เช่น ประหยัดเวลาในการดัดฟัน ตัวเครื่องมือมีน้ำหนักเบา ใส่ไปแล้วไม่ค่อยเจ็บ เป็นต้น แต่ข้อเสียก็มีด้วยเหมือนกันค่ะ คือราคาแพงมาก และต้องเข้มงวดเรื่องการทำความสะอาดฟัน
ขั้นตอนการจัดฟัน
1.ปรึกษาคุณหมอวางแผนการรักษา
2.พิมพ์แบบจำลองฟันและเอกซเรย์ฟันเพื่อดูโครงสร้างของฟัน การสบฟัน และขากรรไกร
3.ต้องเคลียร์ช่องปากก่อนจัดฟัน เช่น ขูดหินปู อุดฟัน
4.คุณหมอจะทำการติดเครื่องมือจัดฟัน จากนั้นคุณหมอจะทำการนัดหมายมาปรับลวด
ข้อปฏิบัติในระหว่างการจัดฟัน
–หลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารแข็ง เหนียวและกรอบทั้งหลาย เช่น การเคี้ยวก้อนน้ำแข็ง ปลาหมึก ถั่ว ลูกอม ท้อฟฟี่ และหมากฝรั่ง เพราะจะทำให้เครื่องมือจัดฟันหลุดได้
-การรับประทานผัก ผลไม้ ควรตัดแบ่งเป็นชิ้นเล็กพอคำ และเคี้ยวด้วยฟันกรามข้างหลัง ควรเลือกรับประทานอาหารอ่อน ๆ
-ในระยะแรกของการจัดฟันมักจะเจ็บฟันและอาจมีแผลเกิดขึ้นในช่องปาก ซึ่งอาการจะค่อย ๆ ทุเลาลงในสัปดาห์ที่ 2 การลดการระคายเคืองโดยนำขี้ผึ้งที่ได้รับจากทันตแพทย์ทาปิดทับบริเวณที่ แหลมคมและการดื่มน้ำให้มาก จะทำให้แผลหายเร็วขึ้น
-ถ้ามีลวดเส้นเล็ก ๆ งอมาแทงริมฝีปากหรือแก้ม ให้ใช้ของไม่มีคม เช่น ยางลบปลายดินสอเช็ดแอลกอฮอล์ กดปลายลวดเข้าไป
-แปรงฟันทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร เพื่อลดการเกิดฟันผุในระหว่างการจัดฟัน
-ในระหว่างการจัดฟันควรพบทันตแพทย์เพื่อขูดหินปูน ทำความสะอาดฟันและตรวจฟันผุทุก ๆ 6 เดือน
ลองคิดถึงข้อดี ข้อเสีย ความจำเป็นของเราว่าควรจัดฟันหรือไม่ เพราะเราจะได้ไม่เปลืองเงินโดยใช่เหตุอีกทั้งไม่ไปทำร้ายฟันดีๆของเราด้วย แต่หากใครเข้าข่ายที่ควรจัดฟันก็ควรทำแต่แนะนำให้ศึกษาหาคลินิกที่มีคุณหมอเชี่ยวชาญด้านการจัดฟันโดยเฉพาะเท่านั้นค่ะ