อยากมีสุขภาพที่ดี ควรเริ่มต้นจากอะไร มีหลายคนตั้งเป้าหมายว่าปีใหม่นี้อยากจะเริ่มต้นใหม่ทำอะไรหลายๆ อย่างที่ยังไม่เคยทำหรือยังทำไม่สำเร็จ บางคนก็อยากเก็บเงินให้ครบตามจำนวนที่ตั้งไว้ บางคนก็ตั้งเป้าหมายเกี่ยวกับหน้าที่การงาน ในขณะที่หลายๆ คนก็ตั้งเป้าหมายเกี่ยวกับสุขภาพ แต่ถ้าเรามัวแต่พูดไม่ลงมือทำสิ่งต่างๆ ก็คงไม่เกิด มาเริ่มต้นกันที่ใกล้ตัวที่สุดนั่นคือ “สุขภาพ”
1. ทานอาหารเช้า
เนื่องจากคุณต้องอดอาหารมาตลอดคืน การทานอาหารเช้าคือสิ่งจำเป็นนอกจากเป็นการกระตุ้นระบบต่างๆในร่างกายแล้ว ยังทำให้คุณไม่หิวจนทานมากเกินไปในมื้ออื่นอีกด้วย และจากการศึกษาพบว่าผู้ใหญ่ที่ทานข้าวเช้าเป็นประจำจะทำงานออกมาได้ดีกว่า เช่นเดียวกับเด็กที่ทานข้าวเช้าเป็นประจำก็จะมีผลการเรียนที่ดีกว่า ซึ่งข้าวเช้านั้นควรเลือกของที่มีประโยชน์ หากการทานเป็นอาหารมื้อใหญ่ไม่เหมาะสำหรับคุณ ก็อาจเลือกเป็นโจ๊ก ข้าวต้ม หรือกราโนล่าแทนก็ดีเช่นเดียวกัน
2. การวางแผนทานอาหาร
มันน่าจะมีสักวันหนึ่ง ที่คุณนั่งลง หยิบกระดาษและปากกาขึ้นมาแล้วคิดว่าคุณควรจะทานอะไรในแต่ละมื้อของวัน รวมถึงของว่างระหว่างวันด้วย นอกจากจะทำให้สุขภาพคุณดีขึ้นแล้วยังช่วยประหยัดเงินได้อีกด้วย เพราะการวางแผน และเตรียมอาหารทำให้คุณทราบว่าในแต่ละวันคุณจะทานอาหารอะไรบ้างเพื่อสุขภาพของคุณ สิ่งที่ควรทำคือลดปริมาณน้ำตาล แป้ง และไขมันลง แล้วทดแทนด้วยโปรตีนและผักต่างๆ นอกจากนี้คุณอาจจะให้รางวัลตัวเองด้วยการทานอาหารที่คุณชอบสัปดาห์ละครั้ง โดยไม่ต้องคำนึงว่าจะมีน้ำตาล แป้งหรือไขมันปริมาณเท่าไหร่
3. ดื่มน้ำเปล่ามากๆ
ทุกๆคนทราบดีว่าหากต้องการมีสุขภาพที่ดีควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว แต่น้อยคนเหลือเกินที่จะทำได้ ทำให้มีปัญหาสุขภาพต่างๆตามมา ดังนั้นหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ดื่มน้ำเปล่าน้อยในแต่ละวัน มันจะเป็นเรื่องที่ดีที่คุณเริ่มทำตั้งแต่อ่านบทความนี้จบ โดยวิธีการง่ายๆคือการพกขวดน้ำเล็กๆใกล้มือตลอดเวลา หรือหากคุณไม่ชอบดื่มน้ำเปล่า อาจใส่รสชาติด้วยการเติมมะนาวฝาน หรือส้มสักชิ้นลงไป แต่คุณต้องไม่เติมน้ำตาลลงไปในนั้น เพราะการดื่มน้ำหวานมากๆ จะทำให้คุณน้ำหนักเพิ่ม และเป็นโรคเบาหวานได้ง่าย
4. ออกกำลังกายวันละนิด จิตแจ่มใส
การออกกำลังกายที่ดีคือครั้งละ 30 นาที อย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์ ซึ่งฟังดูเหมือนง่าย แต่ทำจริงๆนั้นมันยากเหลือเกิน ดังนั้นหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่มีเวลาออกกำลังกายนานๆ การทำครั้งละนิดละหน่อย ก็สามารถช่วยได้เช่นกัน โดยคุณอาจจะยืดกล้ามเนื้อในตอนเช้าก่อนอาบน้ำ ใช้บันไดแทนที่จะใช้ลิฟต์ หรือเดินให้มากขึ้นในแต่ละวัน ก็นับเป็นการออกกำลังกายเช่นเดียวกัน
5. ออกห่างจากโซเชียลบ้าง
การเข้าไปเช็ค และอัพเดตทุกๆอย่างบนโลกโซเชียลกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของคนยุคปัจจุบัน แต่บางครั้งการที่คุณวางสมาร์ทโฟนของคุณลง แล้วใส่ใจคนรอบข้าง หรือทำกิจกรรมที่ไม่ใช่บนสมาร์ทโฟนเช่น อ่านหนังสือ ทำอาหาร หรือเดินเล่นบ้างในตอนเย็น แล้วกลับไปอัพเดตโลกโซเชียลของคุณในตอนเช้า เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพของคุณ
6. ไม่หยุดที่จะเรียนรู้
การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆตลอดเวลา หรือเรียนรู้สิ่งที่คุณอยากเรียนในวัยเด็กแต่ไม่มีโอกาส เป็นหนึ่งแนวคิดของคนที่ต้องการมีสุขภาพดี เพราะจะทำให้สมองของคุณกลับมาตื่นตัวอีกครั้ง หลังจากทำสิ่งเดิมๆมานาน และห่างไกลจากโรคอัลไซเมอร์อีกด้วย โดยคุณอาจจะไปสมัครเรียนเต้น ดนตรี วาดรูป หรือเรียนภาษาใหม่ๆเพื่อมาพัฒนางานของคุณก็เป็นความคิดที่ไม่เลวนัก
7. หยุดสูบบุหรี่
ไม่มีใครไม่ทราบว่าบุหรี่ไม่ดีต่อสุขภาพ แต่หลายๆคนยังเลือกที่จะสูบมันอยู่จากหลายๆสาเหตุ ซึ่งไม่ว่าคุณจะสูบจากสาเหตุอะไร การเลิกมันเป็นสิ่งที่คุณควรทำ และทุกวันนี้มีองค์กรต่างๆมากมายที่พร้อมจะช่วยสนับสนุนคุณที่จะเลิกบุหรี่ โดยที่คุณไม่ต้องใช้การหักดิบก็ได้ เพียงแต่คุณกล้าที่จะเดินเข้าไปปรึกษาคนเหล่านั้นเท่านั้น
8. นอนหลับให้เพียงพอ
การนอนหลับที่มีคุณภาพ และเพียงพอจะทำให้คุณมีสุขภาพที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน เพราะนอกจากร่างกายจะได้คลายความเหนื่อยล้าแล้ว สมองของคุณจะทำการจัดระเบียบความทรงจำต่างๆขณะที่คุณนอนหลับทำให้กลายเป็นความทรงจำระยะยาว อีกทั้งในระยะยาวยังทำให้คุณห่างไกลจากการเป็นโรคหัวใจได้อีกด้วย โดยการนอนหลับที่มีคุณภาพนั้น ภายในห้องควรไม่มีแสงไฟเกิดขึ้น ชาร์ตโทรศัพท์ไกลจากหัวนอน รวมถึงกำหนดเวลานอนและตื่นให้ชัดเจนเพื่อให้คุณทำมันให้เป็นกิจวัตรประจำวัน