เคล็ดลับลดน้ำหนัก ง่ายๆ ด้วยตนเอง การลดน้ำหนัก เป็นความพยายามที่ใครหลาย ๆ คนต่างก็ล้มเหลวกันมันมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แม้บางคนจะมีความตั้งใจจริง แต่ก็ไม่สามารถทำให้สำเร็จได้ตามที่หวังเอาไว้ เพราะส่วนหนึ่งนั้นมาจากการตั้งใจที่ผิดวิธี มีความเชื่อแบบผิด ๆ และมีพฤติกรรมบางอย่างที่ส่งผลต่อน้ำหนักแบบที่คุณไม่รู้ตัว บทความนี้จะเผยเคล็ดลับและทำให้คุณลดน้ำหนักได้อย่างเห็นผล โดยที่คุณไม่ต้องอดอาหารและไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายเลยก็ได้
เคล็ดลับการลดน้ำหนัก ง่ายๆด้วยตนเอง
การจะลดน้ำหนักได้สำเร็จนอกจากออกกำลังกายแล้ว สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ การควบคุมอาหารนะคะ ถ้าเลือกกินอาหารที่เป็นมิตรกับน้ำหนักตัวก็จะช่วยให้เราลดความอ้วนได้ แต่ทว่าหลายคนมีภารกิจรัดตัว ทั้งเรียนเยอะ ทำงานหนักจนแทบไม่มีเวลาจะทำอาหารกินเอง ได้แต่ซื้ออาหารนอกบ้านมากิน หุ่นก็เลยอวบเอา ๆ สุดท้ายความตั้งใจที่จะลดความอ้วนเลยต้องล้มเลิกไปอย่างน่าเสียดาย
1. สร้างกำลังใจและแรงผลักดัน การลดน้ำหนักจะต้องใช้แรงใจและแรงผลักดันอย่างมาก เพราะเราต้องทนกับสิ่งยั่วยุต่าง ๆ แต่อย่างไรก็ตาม ขอให้เรานึกอยู่เสมอว่าสิ่งยั่วยุเหล่านั้นจะทำให้เราอ้วนและดูน่าเกลียด ซึ่งเราอาจจะมีชุดที่เราชอบมาก ๆ และคิดว่าน่าจะเหมาะกับเราถ้าเราผอมกว่านี้ ดังนั้น ให้เรานำชุดมาแขวนเอาไว้หน้ากระจุกแล้วก็ท่องว่าเราจะต้องใส่ชุดนี้ให้ได้ แต่อย่าเอาชุดต่างไซส์กันจนเกินไปมาเป็นแรงผลักดันล่ะ เพราะเราอาจจะหมดกำลังใจไปก่อน
2. ตั้งเป้าหมายอย่างสมเหตุสมผล เช่น เราหนัก 55 กิโล แต่สูงเพียง 155 เซนติเมตร ซึ่งดูอวบไปนิด เราอาจตั้งเป้าหมายใหญ่ว่าจะลดน้ำหนักให้ได้ 10 กิโลกรัม จากนั้นเราอาจจะตั้งเป้าหมายย่อยอีกว่าในเดือนนี้จะลดให้ได้ก่อนสัก 3 กิโลกรัมเป็นอย่างต่ำ เมื่อครบเดือนและเราสามารถทำได้อย่างที่ตั้งใจ เราก็จะมีกำลังใจที่จะลดน้ำหนักต่อไป (อย่าพยายามตั้งเป้าหมายที่ไกลเกินไป เพราะถ้าเราทำไม่ได้ เราจะท้อแท้และหมดกำลังใจเป็นเสียก่อน)
3. สะกดจิตตัวเอง เมื่อเราตัดสินใจที่จะลดความอ้วนแล้ว เราคงจะไม่พอใจรูปร่างของตัวเองสักเท่าไหร่ การหันมามองตัวเองในกระจุกทุกวันก็เท่ากับเป็นการย้ำเตือนตัวเองให้ลดน้ำหนักได้แล้ว และเมื่อเราอยากกินอะไรที่มีไขมันและน้ำตาลสูง ก็ให้มองกระจกดูตัวเองพร้อมกับถามตัวเองว่า หากเรากินเจ้าสิ่งนี้เข้าไป เราจะต้องรับพลังงานเข้าไปกี่กิโลแคลอรี และต้องออกกำลังกายนานแค่ไหนถึงจะเผาผลาญไปหมด หรืออาจมีแผนสำรองด้วยการเอารูปตอนที่เราอ้วนสุด ๆ ขึ้นมาดู แล้วถามตัวเองซ้ำว่าอยากกลับไปเป็นแบบนั้นอีกครั้งหรือ ? เมื่อถามตัวเองได้อย่างนั้น ก็สรุปในใจตัวเองว่า ในเมื่อผลร้ายมันมากกว่าผลดี แล้วเรายังอยากกินมันอยู่ไหม ? ถ้าคำตอบคือไม่ ก็แสดงว่าเราสะกดจิตตัวเองสำเร็จแล้วล่ะ
4. อย่าฝืนตัวเองจนตบะแตก เป็นกับหลาย ๆ คนที่เวลาลดความอ้วนจะพยายามอดทุกอย่าง แม้แต่ของที่ตัวเองชอบมาก ๆ แต่ยิ่งกินไม่ได้ ทำให้ในใจก็ยิ่งโหยหา พอเวลาผ่านไป วันหนึ่งเกิดตบะแตกจนกินอาหารที่ตัวเองชอบอย่างแหลกลาญ แล้วมานั่งเสียใจภายหลัง ทำให้บางคนถึงกับเลิกลดน้ำหนักไปเลย เพราะหมดกำลังใจ ซึ่งในที่นี้จะขอแนะนำว่าเราไม่ควรจะลดความอ้วนกันแบบหักดิบ แต่จะควรอย่างค่อยเป็นค่อยไป ถ้าเราต้องการจะกินของโปรดก็ให้กินได้ แต่กินทีละน้
5. จงท่องให้ขึ้นใจ หากใครยังค้นหาแรงจูงใจในการลดน้ำหนักไม่ได้หรือกำลังพยายามหาข้ออ้างให้ตัวเองโดยไม่ลดน้ำหนัก ก็ขอให้ท่องประโยคนี้ไว้เลยว่า “น้ำหนักที่เกินพอดีนอกจะจะมีผลด้านความสวยงามทำให้ดูไม่ดีแล้ว ทำอะไรก็ขาดความคล่องตัว เหนื่อยง่ายกว่าคนปกติ มันยังเป็นสาเหตุของการเกิดโรคได้สารพัด เช่น โรคหัวใจ โรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด ความดันโลหิตสูง เบาหวาน มะเร็งทรวงอก โรคไขข้อเสื่อม ฯลฯ“อย อาจจะแค่ 2-3 คำ และก็ห้ามกินบ่อย ให้กินแค่สัปดาห์ละครั้ง จากนั้นจึงค่อย ๆ ห่างหายกันไปจนกระทั่งนาน ๆ ทีถึงจะอยากกิน
6. หาเพื่อนร่วมอุดมการณ์ เพราะอย่างไรสองหัวก็ดีกว่าหัวเดียวอยู่แล้วล่ะ หรือจะออกกำลังกายภายในครอบครัวก็เป็นอีกทางเลือกวิธีที่ดีเช่นกันที่จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบได้เป็นอย่างดี ซึ่งเราอาจจะชวนลูก ชวนหากเรามีเพื่อน เวลาที่เราเกิดตบะแตกขึ้นมา เพื่อนก็จะช่วยกระตุ้นความรู้สึกและความอยากของเราไม่ให้มีมากจนเกินไปได้ เวลากินก็กินด้วยกัน ก็จะช่วยเพิ่มความสนุกสนานมากยิ่งขึ้น หรือเวลาไปออกกำลังกายก็จะได้ไม่โด