เชื้อไฟแห่งแรงบันดาลใจ เพื่อการมีสุขภาพจิตดี

เชื้อไฟแห่งแรงบันดาลใจ เพื่อการมีสุขภาพจิตดี

ในชีวิตการทํางานเมื่อผ่านไปช่วงเวลาหนึ่ง บางครั้งเราอาจพบเห็นได้กับคนรอบข้างหรือแม้แต่เกิดขึ้นกับตัวเองว่ามี
ช่วงเวลาที่ไฟในการทำงานหายไป คนที่เคยใช้ชีวิตส่วนตัวทุ่มเทให้กับเรื่องงานอย่างเต็มที่มีจุดที่รูปแบบการทำงานเริ่มเข้า สู่จังหวะที่แผ่วลง ความตั้งใจและความรักในสิ่งที่ทำผันเปลี่ยนเป็นกิจวัตรหน้าที่อันน่าเหนื่อยหน่าย จนถึงที่สุดบางรายอาจ ถึงขั้นนึกอยากลาออกจากงานเดิมที่ทำ เป็นสิ่งที่เกิดกันได้ในทุกองค์กรไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่ และในหลากหลาย ขอบเขตงานทุกวิชาชีพ แต่ข่าวดีคือเราทุกคนสร้างแรงบันดาลใจขึ้นมาใหม่ได้เสมอ ซึ่งสาเหตุที่แรงจูงใจถึงการดับสลายไป มาจากการที่คนเราขาดความเชื่อที่สำคัญ 4 ประการ และเรามีแนวทางเพื่อเปลี่ยนแปลงมันในทางที่ดีขึ้นได้อยู่เสมอ

ทั้งหมดนี้ยึดจากการวิจัยทางสังคมศาสตร์และจิตวิทยาองค์กรที่มีการศึกษามาในหลายทศวรรษ ขาดความเชื่อในความสามารถ

ขาดความเชื่อในความสามารถ
เหตุผลแรกที่ผู้คนลาออกจากงาน มาจากความเชื่อที่ว่พวกเขาไม่สามารถทำงานนั้นต่อไปได้ ความตื่นเต้นและความตั้งใจ ที่มีให้กับงานในช่วงแรก ๆ จางหายไปเมื่อพวกเขาเริ่มทำงานล้มเหลว ซึ่งแรงกดดันที่เกิดขึ้นตามมานั้นคือเครื่องบ่ันทอน จิตใจที่อาจทำให้บางคนไม่เชื่ออีกต่อไปว่าความพยายามที่ทุ่มเทไปจะนำมาซึ่งความสำเร็จ เสียแรงเปล่าที่จะทำงานได้ดี ขึ้น สาเหตุหลายประการที่ผู้คนหมดความตั้งใจเป็นผลมาจากสิ่งที่เรียกว่าความคิดที่ตายตัว แครอล ดเว็คนักจิตวิทยาและ ผู้วิจัยได้เน้นย้ำถึงความแตกต่างระหว่างความคิดที่ตายตัวและความคิดที่เติบโต คนที่มีความคิดตายตัวเชื่อว่าความรู้ ทักษะ และความสามารถจะคงที่ตามไปด้วย คนที่มีความคิดเติบโตเชื่อว่าทุกสิ่งมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลาและเติบโตได้ ด้วยความพยายามและการเรียนรู้ ดังนั้นหากหัวหน้าสั่งงานลูกน้องที่มีความคิดตายตัว พวกเขาจะรู้สึกว่าสิ่งที่ทำเป็นเพียง คำสั่งที่ไม่อาจทำให้เติบโตได้ในด้านใด ๆ ซึ่งเป็นหน้าที่ของคนเป็นหัวหน้าด้วยที่จะต้องช่วยเปลี่ยนความคิด

ผู้ใต้บังคับบัญชาจากแบบตายตัวไปสู่ความคิดเติบโต หรือบางคนอาจกระตุ้นตนเองโดยตั้งคำถาม ถึงด้านต่าง ๆ ในชีวิตที่ รู้สึกท้อแท้หรือไม่ประสบความสำเร็จ และค่อย ๆ เติมไฟความอยากเพื่อเอาชนะความท้าทายเหล่านั้น ซึ่งจะลดทอนความคิดที่ว่าตนเองทำไม่ได้ไปในตัว

ขาดความเชื่อว่าจะได้ผล
เป็นเหตุผลอีกข้อที่ทำให้คนหมดกำลังใจ คือการขาดความเชื่อว่าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายนั้นเป็นการแก้ปัญหา หรือ
ช่วยเหลืออะไรให้ดีขึ้นได้กับตนเอง คนรอบข้าง หรือองค์กร เป็นสิ่งที่ไม่สร้างให้เกิดคุณประโยชน์ในระดับที่น่าพอใจ
แน่นอนว่าเมื่อองค์กรเติบโตขึ้นความเชี่ยวชาญในสายงานก็เพิ่มขึ้นตามเช่นกัน นั่นหมายความว่าหน้าที่การงานที่เราทำจะ กลายเป็นความรับผิดชอบซึ่งมีความหลากหลายน้อยลงกว่าเดิม และเน้นไปที่การวนใช้ทักษะรูปแบบเดิม ๆ ซ้ำไปซ้ำมา ข่อดีนั้นไปตกที่ผลลัพธ์ที่ได้ ซึ่งมีประสิทธิผลสูง แต่ก็เป็นดาบสองคมที่ทำให้แรงจูงใจในการทำงานหมดลงไปเช่นกัน

เนื่องจากเมื่อขาดการมองภาพรวมผู้คนจะรู้สึกว่า สิ่งที่ทำเป็นภาระที่ต้องทำอยู่ซ้ำซากเป็นประจำ และอาจรู้สึกว่ามันไม่มี ความหมาย ในฐานะผู้นำ หากรู้สึกว่าบุคคลในทีมกำลังประสบกับปัญหานี้ หัวหน้าต้องแสดงให้ลูกน้องเห็นภาพรวมที่ใหญ่ ขึ้นว่ากระบวนการทำงานของพวกเขาช่วยเหลือกันอย่างไร ขณะที่ตัวพนักงานเองนอกจากทำหน้าที่ส่วนของตนเองอย่าง เต็มที่ก็ต้องรู้จุดประสงค์ของสิ่งที่กำลังทำ ไม่ใช่แต่เพียงเพราะเจ้านายสั่ง หรือเป็นสิ่งที่ทำไปตามหน้าที่อยู่ทุกวัน แต่ให้หา คุณค่าของงานที่ได้ทำไป เพื่อเป็นการทบทวนตนเองว􀀀าผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นตรงกับจุดประสงค์ที่วางไว้แต่แรกหรือไม่อย่างไร

ขาดความเชื่อว่าจะก้าวหน้า
คือการขาดปฏิสัมพันธ์ที่เชื่อมต่อแรงบันดาลใจกับโอกาสที่ได้รับในสายวิชาชีพ ความก้าวหน้าเป็นตัวกระตุ้นมนุษย์ที่ทรง พลัง สามารถทำให้คนเรามุ่งไปสู่เป้าหมายได้ ซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล อาจเป็นได้ทั้งความรู้สึกที่ได้เติบโตใน ตำแหน่งอันมีหน้าที่รับผิดชอบที่สอดคล้องกับทักษะความสามารถ สิ่งแวดล้อมในองค์กร การพัฒนาฝีมือ หรือ สำหรับบางคนอาจเป็นรายได้ ผลตอบแทนหรือโบนัส รางวัลชมเชย

เหล่านี้ล้วนเป็นเป้าหมายและการมีเป้าหมายคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่แก่ คนเรา แต่มันก็ไม่ได้นำมาซึ่งแรงจูงใจเสมอไป หากบางคนล้มเลิกไปกลางคันเมื่อรู้สึกว่าตนเองไปไม่ถึงเป้าหมายเสียที แน่นอนว่า ตินทุนความสามารถและความเร็วในย่างก้าวของแต่ละคน มีไม่เท่ากัน หน้าที่ของคนเป็นหัวหน้าคือ ควรสร้างสิ่ง ที่บ่งชี้ถึงพัฒนาการให้ลูกทีมได้รับรู้ถึงเส้นทางที่พวกเขาได้ก้าวผ่านมาจากงานที่ทำอยู่ไม่ว่าบางคนจะไปช้าหรือไปเร็ว

เชื้อไฟแห่งแรงบันดาลใจ เพื่อการมีสุขภาพจิตดี

เปรียบได้กับหลักกิโลเมตรในเส้นทางอาชีพที่ทำให้พนักงานรู้ถึงความก้าวหน้าที่ตนมีและเกิดแรงจูงใจที่จะทำดีต่อไป ใน ส่วนที่ลูกน้องจะสามารถทำได้ คือการให้ความสำคัญกับปัจจุบันด้วยเช่นกัน เพราะมันเป็นสิ่งที่กำหนดอนาคต หากเอาแต่ จดจำออยู่กับเป้าหมายที่ต้องการเพียงอย่างเดียวก็อาจทำให้บางคนหลุดโฟกัสจากสิ่งที่กำลังทำอยู่ เมื่อเราทุ่มเทให้กับสิ่งที่ อยู่ในปัจจุบันอย่างเต็มที่แล้วอนาคตก็จะดีขึ้นตามไปด้วยอย่างแน่นอน

ขาดความเชื่อว่าเป็นสิ่งสำคัญ
การขาดจุดมุ่งหมายในการทำงานเกิดขึ้นได้ แม้แต่ในหลายองค์กรที่ผ่านประสบการณ์การเติบโตทางธุรกิจมามากมาย บางคนเข้ามาทำงานโดยที่ยังไม่รู้จักองค์กรหรือบริษัท ซึ่งเป็นส่วนที่ผู่ประกอบการ เจ้าของธุรกิจหรือผู้บังคับบัญชาแก้ไขได้โดย ประกาศถึงวัตถุประสงค์การทำงานขององค์กร อธิบายว่างานที่พวกเขาทำนั้นมีความสำคัญอย่างไรหรือทำให้โลกดีขึ้นได้ อย่างไร เพื่อกำหนดให้แนวทางการทำงานของบุคคลให้ไปในทิศทางเดียวกันและส้างแรงจูงใจในการทำงานแก่บุคลากร

เพื่อไปสู่จุดหมายนั้น ซึ่งไม่จำเป็นว่าต้องเป็นเรื่องใหญ่โต ในการกอบกู้โลกอย่างที่กล่าวมา แม้แต่เรื่องที่มองดูเล็กก็สามารถ สร้างแรงจูงใจที่มหาศาลได้หากเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับอุดมการณ์ของผู้ทำงานและกลายเป็นเรื่องสำคัญได้เเช่นกัน มีสาเหตุ หลายประการที่ทำให้แรงจูงใจจางหายไป แต่ก็มีอีกหลายวิธีที่คนทำงานจะจุดประกายไฟทำงานให้เกิดขึ้นมาอีกครั้งได้ ขึ้นอยู่ที่ว่าเราจะเห็นถึงความสำคัญนั้น คุ้มค่ามากพอที่จะสู้ต่อไปกับงานนั้น ช่ังน้ำาหนักและพิจารณาแนวทางและทักษะที่ เรามีตามความเป็นจริง หม่ันคอยเติมไฟการทำงานกับอาชีพที่ใจรักอย่างสุดความสามารถ