แล้วประกันสุขภาพมีกี่แบบ? ปัจจุบัน การเลือกซื้อประกันกลายเป็นเรื่องที่ใครหลายคนหันมาให้ความสำคัญเพื่อช่วยสร้างความอุ่นใจในวันที่ชีวิตต้องเจอกับความเสี่ยงแต่พอจะซื้อทีไรก็ตัดสินใจไม่ถูกเพราะมีให้เลือกมากมายเต็มไปหมด ครั้นจะเลือกตามเพื่อนก็ไม่แน่ใจว่าจะเหมาะกับเราจริง ๆ ไหม ซึ่งหากจะเทียบให้เห็นภาพง่าย ๆ ก็คงไม่ต่างไปจากการเลือกคู่ครอง ที่จะต้องอยู่ด้วยกันไปยาว ๆ หากเลือกได้พอดี เป็นคนที่เข้ามาเติมเต็มชีวิตเราให้แฮปปี้ ชีวิตก็จะมีแต่ความสบายใจ
เลือกประกันให้เหมาะสมกับช่วงวัยของตัวเอง
ช่วงอายุในแต่ละวัยเป็นหลักไมล์สำคัญที่เราใช้ประเมินความเสี่ยงของตัวเองได้ ทั้งด้านรายได้ สุขภาพ และการทำงาน การพิจารณาช่วงอายุจึงมีผลอย่างมากในการตัดสินใจเลือกซื้อประกันโดยเราแบ่งช่วงอายุและประกันที่เหมาะสมเอาไว้ให้เป็นแนวทาง ดังนี้
ช่วงวัยเด็กถึงวัยรุ่น อายุ 0-20 ปี :เป็นช่วงอายุที่เหมาะสมกับ ประกันสุขภาพซึ่งพ่อแม่ควรพิจารณาไว้ตั้งแต่เริ่มวางแผนมีบุตร เพื่อให้ประกันคุ้มครองตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ตลอดจนคลอดบุตรจากนั้นควรทำประกันสุขภาพสำหรับลูกตั้งแต่วัยแรกเกิด เพราะเด็กวัยนี้มีภูมิต้านทานโรคต่ำ มีโอกาสเจ็บป่วยได้ง่าย เมื่อโตขึ้นเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น 15-20 ปี เป็นช่วงอายุที่ใช้ชีวิตเต็มที่และอาจเสี่ยงอันตรายอยู่บ่อยครั้ง จึงน่าจะต้องมองหาและเรียนรู้เรื่อง ประกันอุบัติเหตุ เพิ่มเติมไว้ด้วย
ช่วงวัยเริ่มทำงาน อายุ 21 -35ปี : ช่วงอายุที่เริ่มสร้างเนื้อสร้างตัว หารายได้จากการทำงาน จึงเหมาะกับ ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ เพื่อสร้างวินัยในการออมเงิน รวมถึงสามารถนำเบี้ยประกันไปลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นช่วงอายุที่ควรใส่ใจเรื่องประกันสุขภาพและประกันอุบัติเหตุเผื่อเอาไว้ เพราะเป็นช่วงอายุที่มักได้เบี้ยประกันราคาถูกที่สุดนั่นเอง
ช่วงวัยเริ่มสร้างครอบครัว อายุ 35-55 ปี : เป็นวัยที่เริ่มสร้างครอบครัว สิ่งแรกที่ควรนึกถึงคือ ความเสี่ยงด้านรายได้ที่มาจากเสาหลักของครอบครัว ช่วงอายุนี้จึงเหมาะกับการทำ ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ หรือ ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลาซึ่งอย่างหลังควรเลือกช่วงเวลาคุ้มครองที่เหมาะสมด้วยสำหรับหลักประกันต่อมาที่ควรนึกถึงคือ ประกันทรัพย์สินเมื่อเรามีครอบครัว เป็นธรรมดาที่ต้องมีทรัพย์สินที่มีมูลค่า เช่นบ้าน หรือคอนโดเป็นของตัวเอง การมีหลักประกันเพื่อคุ้มครองทรัพย์สินจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ควรต้องมีแต่ทั้งนี้เรื่องสุขภาพและอุบัติเหตุก็เป็นความเสี่ยงที่ไม่ควรละเลยประกันสุขภาพและประกันอุบัติเหตุจึงจำเป็นต้องมีควบคู่กันไป เพื่อเป็นหลักประกันความเสี่ยงให้กับครอบครัวหากเกิดอะไรขึ้นกับคนที่เป็นเสาหลักของบ้าน
ช่วงวัยก่อนเกษียณ ช่วงปลายของวัยทำงาน: เป็นช่วงที่ต้องเตรียมเงินไว้ใช้หลังเกษียณ ดังนั้นประกันที่เหมาะสมกับช่วงวัยนี้คือ ประกันชีวิตแบบบำนาญ เพื่อเป็นหลักประกันรายได้ที่จะได้รับควบคู่กับเงินออมที่เก็บหอมรอมริบเอาไว้ นอกจากนี้ ช่วงวัยนี้ยังเหมาะกับการซื้อกองทุนต่าง ๆ ด้วยเช่นRMF หรือกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพโดยยังคงมี ประกันสุขภาพและประกันอุบัติเหตุไว้เพื่อความสบายใจเป็นการปูทางให้แผนใช้ชีวิตหลังเกษียณราบรื่นมากยิ่งขึ้น
ช่วงวัยหลังเกษียณ อายุ 55 ปีเป็นต้นไป: เป็นวัยที่เริ่มมีปัญหาสุขภาพ และมีความเสี่ยงมากขึ้นหากเกิดอุบัติเหตุ จึงควรทำ ประกันสุขภาพและประกันอุบัติเหตุเอาไว้ อีกสิ่งสำคัญของวัยนี้คือการจัดสรรมรดก และทรัพย์สินต่าง ๆ ที่ต้องตกทอดให้กับลูกหลาน วัยนี้จึงเหมาะกับประกันชีวิตแบบตลอดชีพ เพราะสามารถเป็นเงินมรดกส่งต่อให้กับลูกหลานของเราได้ อีกทั้งความคุ้มครองตามกรมธรรม์ยังมีความคุ้มครองนานถึง 90-99 ปีเลยทีเดียว หรืออาจเลือกทำประกันชีวิตแบบผู้สูงอายุ ได้ ซึ่งประกันประเภทนี้มักไม่ต้องตรวจสุขภาพ และเมื่อผู้ทำประกันจากไปผลประโยชน์ที่ทำไว้ก็จะเป็นมรดกให้กับทายาทได้เช่นกัน