โรคชอบเปรียบเทียบ คิดว่าเราด้อยกว่าคนอื่น

โรคชอบเปรียบเทียบ คิดว่าเราด้อยกว่าคนอื่น การเปรียบเทียบเป็นเรื่องปกติของมนุษย์เราก็จริง แต่บางคนก็หมกมุ่นครุ่นคิดถึงการเปรียบเทียบไม่ยอมจบ จนกระทบต่อการใช้ชีวิต บ้างก็คิดว่าทำไมใคร ๆ ก็เก่ง สวย รวย โชคดีกว่าเราเป็นไหน ๆ สุดท้ายก็มานั่งกลุ้มใจ ท้อแท้กับชีวิตของตัวเองจนจิตตกวุ่นวายไปหมด แต่สำหรับบางคนก็เลือกจะเปรียบเทียบกับคนที่ด้อยกว่า แล้วคิดว่าตัวเองนั้นอยู่เหนือกว่าใครทั้งปวง หน้ามืดตามัวอยู่กับความดีเด่นของตัวเองจนมองไม่เห็นข้อด้อย ข้อบกพร่อง และไม่สามารถพัฒนาตัวเองต่อไปได้อีก

ใครรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่ชอบเปรียบเทียบอย่างที่ว่ามา แล้วคิดว่าอยากเลิกเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นให้ได้ ลองมาทำความเข้าใจโรคชอบเปรียบเทียบ แล้วมาเลิกนิสัยชอบเปรียบเทียบไปด้วยกัน

 

โรคชอบเปรียบเทียบ เกิดจากอะไร

นอกจากสัญชาตญาณของมนุษย์และปัจจัย 4 แล้ว ยังมีความเชื่อว่าภาวะชอบเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นอาจมีผลมาจากสื่อสังคมออนไลน์ โซเชียลในยุคปัจจุบันที่เปิดโอกาสให้คนเราได้แชร์ชีวิตส่วนตัวของตัวเองมากขึ้น เช่น ไปไหน กินอะไร อยู่กับใคร ทำอะไรที่ไหน ทำอาชีพอะไร ตำแหน่งงานเป็นอย่างไร ขับรถยี่ห้ออะไร บ้านใหญ่โตแค่ไหน ฯลฯ ส่งผลให้เกิดการเปรียบเทียบได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมค่อนข้างมาก อีกทั้งสังคมรอบข้างที่คอยกดดัน ผู้ปกครองมีพฤติกรรมชอบเปรียบเทียบลูกตัวเองกับลูกบ้านอื่น ปัจจัยนี้ก็เป็นสาเหตุให้บุคคลยึดติดกับการเปรียบเทียบจนคิดเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นอยู่เรื่อย ๆ ก็เป็นได้

อย่างไรก็ตาม มักจะพบโรคชอบเปรียบเทียบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย และมักจะพบโรคชอบเปรียบเทียบในวัยรุ่นตอนต้น วัยผู้ใหญ่ที่เพิ่งเริ่มทำงาน และวัยสูงอายุที่มักเปรียบเทียบตนเองกับความรุ่งเรืองในอดีต

การเปรียบเทียบเป็นเรื่องปกติของมนุษย์เรา บางคนอาจจะถูกผู้อื่นเปรียบเทียบ หรือเราเองไปเปรียบเทียบคนนั้นกับคนนี้ก็มี ซึ่งในทางบวก การเปรียบเทียบอาจทำให้เราอยากพัฒนาตัวเอง ปรับปรุงตัวเองให้เป็นแบบเขาให้ได้

ทว่าอาการของผู้ที่มีความคิดเปรียบเทียบจนเข้าข่ายเป็นโรคหรือภาวะทางจิตเวชที่ควรได้รับการรักษา ก็จะจำแนกโดยความถี่ของการคิดเปรียบเทียบ หากคิดวนเวียนซ้ำ ๆ คิดเปรียบเทียบกับทุกสิ่งทุกอย่างแล้วทำให้ใจเป็นทุกข์ เปรียบเทียบจนชีวิตไม่มีความสุข ยิ่งคิดยิ่งจิตตกไปเรื่อย ๆ หรือรู้สึกเจ็บปวด ยอมแพ้ เวลาไปเปรียบเทียบกับเขา อาจหาทางคิดทำลายคนอื่นแทนที่จะพยายามปรับปรุงตัวเอง หรือยอมทุ่มเททำทุกอย่างเพื่อให้มีอย่างคนอื่นเขา แบบนี้ต้องสงสัยว่าความคิดเปรียบเทียบของตัวเราเป็นพิษเข้าแล้วล่ะค่ะ

โรคชอบเปรียบเทียบ แก้ยังไงดี

ถ้าความคิดชอบเปรียบเทียบตัวเองเริ่มบั่นทอนความสุขในทุก ๆ วัน ลองเลิกเปรียบเทียบตัวเองด้วยวิธีเหล่านี้ก็ได้ค่ะ

– ฝึกมองข้อดีของตัวเอง มองหาจุดแข็งของตัวเอง อาจจดบันทึกไว้ว่าเรามีความสามารถพิเศษอะไร มีข้อดีตรงไหน ผลงานเด่น ๆ ที่ประสบความสำเร็จคืออะไร มีเรื่องไหนที่สร้างความภาคภูมิใจให้เราได้บ้าง เวลาหยิบมาอ่านจะได้รู้สึกสบายใจ แล้วจะพบว่าเราไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร

– หากยังติดนิสัยชอบเปรียบเทียบ แนะนำให้เปรียบเทียบตัวเองกับสิ่งที่ใกล้เคียงความเป็นตัวเรา เช่น เปรียบเทียบผลการเรียนของตัวเองกับของเพื่อนในห้อง แทนที่จะเปรียบเทียบผลการเรียนของตัวเองกับนักเรียนที่ไปแข่งขันทางวิชาการระดับประเทศหรือระดับชาติ วิธีนี้จะช่วยลดความแตกต่างของตัวเองกับสิ่งที่เราเปรียบเทียบได้มาก

– จำแนกความคิดของตัวเองด้วยตาราง 3 ช่อง ช่องแรกให้เขียนสิ่งที่เราเปรียบเทียบ ช่องที่สองให้เขียนเรื่องที่เราเปรียบเทียบ และช่องสุดท้ายให้เขียนความรู้สึกของตัวเองในขณะที่คิดเปรียบเทียบ วิธีทางจิตวิทยานี้จะช่วยให้เรามองเห็นความคิดของตัวเองได้ชัดเจนขึ้น ที่สำคัญอาจจะช่วยให้มองเห็นความเป็นจริงมากขึ้นด้วยว่า ความแตกต่างระหว่างเรากับสิ่งที่เราคิดเปรียบเทียบ ไม่ได้ด้อยหรือเด่นไปกว่ากันสักเท่าไร

– ฝึกมองโลกในแง่ดี ฝึกวิธีคิดบวกกับตัวเอง

– พอใจกับสิ่งที่ตัวเองมี ตัวเองเป็น ไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับคนอื่น จงรักและภูมิใจในสิ่งที่เราเป็นดีที่สุด

– มั่นใจตัวเอง เชื่อมั่นตัวเองให้มากขึ้นว่าเราก็ทำได้ เราก็มีดี

– พิจารณาความเป็นจริงว่าการที่คนอื่นดีกว่าเรา ไม่ได้ทำให้คุณค่าของเราลดลง เช่น คนอื่นรวยก็จริง แต่ก็ไม่ได้ทำให้เงินเราหดหายไป

– อย่าคิดว่าสิ่งที่เห็นเป็นจริงทั้งหมด เพราะคนเรามีหลายด้าน เราอาจเห็นเพียงแค่ด้านเดียวของเขาเท่านั้น บางทีสิ่งที่คนอื่นมี อาจต้องแลกมาด้วยอะไรบางอย่างก็ได้ เช่น เพื่อนที่มีรายได้สูง แต่ต้องแลกกับการทำงานหามรุ่งหามค่ำจนล้มป่วยเป็นประจำ และอาจไม่มีเวลาได้อยู่กับครอบครัว ชีวิตเขาอาจจะไม่ได้มีความสุขอย่างที่เราเห็นก็เป็นได้ ดังนั้นเราไม่จำเป็นต้องเปรียบเทียบกับเขา จะได้ไม่ต้องจมอยู่กับความสิ้นหวังว่าทำไมเราถึงไม่เป็นอย่างเขา