โรคทั่วไป : โรคภัยที่แอบแฝงมากับสาวๆ

โรคภัยที่แอบแฝงมากับสาวๆ

โรคทั่วไป : โรคภัยที่แอบแฝงมากับสาวๆ เทรนด์สาวโสดกำลังมาแรง เพราะผู้หญิงที่ครองตัวเป็นโสดเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อาจจะด้วยหลายๆ ปัจจัยไม่ว่าจะเป็นเรื่องความความสบายใจไม่ต้องดูแลหรือคอยเป็นห่วงใคร มีอิสระอยากทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ แถมเดี๋ยวนี้ผู้หญิงยังมีศักยภาพในการทำงานไม่แพ้ผู้ชาย หาเลี้ยงตัวเองได้ไม่ต้องพึ่งพิงใคร แต่ในความสบายใจและความอิสระนั้นก็ยังมีเรื่องของโรคภัยที่แอบแฝงมาเช่นกันครับ โดยเฉพาะโรคที่สาวโสดมีโอกาสเสี่ยงเป็นมากกว่าสาวที่แต่งงานมีลูกแล้ว เพื่อให้สาวโสดตระหนักถึงการวางแผนดูแลสุขภาพของตัวเองมากขึ้น

1. โรคไมเกรน
มาเริ่มกันที่โรคยอดฮิตในหมู่วัยทำงานอย่างอาการปวดหัวไมเกรน ซึ่งโดยปกติแล้วผู้หญิงมีโอกาสเป็นมากกว่าผู้ชาย 3-4 เท่า อาการรู้สึกปวดศีรษะข้างเดียวหรือทั้งสองข้างอย่างรุนแรงสร้างความทุกข์ทรมาน บางคนอาจมีอาการอื่นๆ เช่น คลื่นไส้อาเจียน รวมถึงยังมีความรู้สึกไวต่อแสงและเสียงเพิ่มขึ้น ส่วนสาเหตุของไมเกรนยังไม่แน่ชัด แต่สันนิษฐานว่าเกิดจากความผิดปกติของสารเซโรโทนินและสารเคมีชนิดอื่นๆ ในสมอง ร่วมกับปัจจัยกระตุ้นต่างๆ ได้แก่ ความเครียด แสงสว่างจ้า แสงไฟกะพริบ เพ่งอะไรนานๆ หรือมีเสียงดังรบกวนเป็นเวลานาน ทางที่ดีสาวโสดทั้งหลายที่ไม่อยากเป็นไมเกรน ต้องหาเวลาออกไปทำกิจกรรมคลายเครียด พบปะเพื่อนฝูง หาคนที่สามารถรับฟังปัญหาหรือระบายเรื่องเครียดๆ ได้โดยที่เราไม่ต้องเก็บมาคิดคนเดียวจนปวดหัว เพื่อให้ร่างกายและจิตใจได้พักผ่อนบ้างนะครับ

2. โรคซึมเศร้า
บางครั้งความเหงา การอยู่คนเดียว ทำอะไรตัวคนเดียว แรงกดดันจากงาน สังคมรอบข้างหรือครอบครัว ไปจนถึงความวิตกกังวลเกี่ยวกับอนาคตก็ทำให้สาวโสดเกิดความเครียดและมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้าได้ ลักษณะอาการของโรคอาจดูคล้ายกับอาการเศร้าหรือเสียใจทั่วๆ ไป แต่ผลกระทบนั้นรุนแรงและเกิดขึ้นยาวนานกว่า บางทีตัวผู้ป่วยเองหรือคนรอบข้างอาจไม่ทันสังเกตเห็นด้วยซ้ำ ปัญหาคือคนส่วนใหญ่ที่ป่วยเป็นซึมเศร้ามักจะไม่รู้ตัวว่ากำลังป่วยเป็นซึมเศร้า หรืออาจรู้ตัวอีกทีตอนที่อาการของโรคเข้าสู่ขั้นรุนแรงจนเกิดผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันไปแล้ว โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มักอยู่ตามลำพังบ่อยครั้ง โรคนี้ก็อาจพรากชีวิตไปอย่างคาดไม่ถึง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นโรคซึมเศร้าก็เป็นโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัยเช่นกันครับ

3. ช็อคโกแลตซีสต์
ช็อกโกแลตซีสต์เป็นอาการที่เกิดจากการเจริญเติบโตที่ผิดปกติภายในเยื่อบุโพรงมดลูก สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากประจำเดือนบางส่วนไหลย้อนกลับมาตกค้างอยู่บริเวณรังไข่ นานเข้าก็เกิดจุดหรือก้อนสีน้ำตาล ได้ว่าจะปวดท้องประจำเดือนอย่างรุนแรงจนแทบลุกไปทำงานไม่ไหว หรือมีประจำเดือนมามากผิดปกติ ยิ่งสาวโสดยังไม่มีลูก โอกาสที่จะเกิดอาการปวดประจำเดือนหรือปวดบริเวณท้องน้อยจะมีมากกว่าผู้หญิงที่มีลูกแล้ว ซึ่งการมีลูกจะช่วยลดโอกาสการเกิดช็อกโกแลตซีสต์ได้บางส่วนและในบางคน เพราะการตั้งครรภ์ 9 เดือน จะเป็นช่วงที่ร่างกายไม่มีประจำเดือน อาจทำให้ซีสต์ที่เป็นอยู่ฝ่อตัวและสลายไปในที่สุด อย่างไรก็ตามผู้หญิงทุกคนก็มีโอกาสเป็นโรคนี้ได้ทุกคน เพื่อความมั่นใจและป้องกันไว้ก่อน แนะนำให้ตรวจสุขภาพประจำปีหรือตรวจภายในอย่างน้อยปีละครั้ง ไม่ว่าจะยังเป็นโสดหรือแต่งงานแล้วก็ตามนะครับ

4. โรคมะเร็งเต้านม
ข้อมูลทางการแพทย์บอกไว้ว่าโรคมะเร็งเต้านมเป็นโรคมะเร็งที่พบได้มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในผู้หญิงไทย เป็นโรคที่มีความสัมพันธ์กับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย ดังนั้นผู้หญิงแต่งงานแล้วมีบุตรและให้นมบุตรจะช่วยลดปัจจัยเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมได้มากกว่าผู้หญิงโสด หรือผู้หญิงแต่งงานแล้วแต่ไม่มีลูก เนื่องจากการให้นมบุตรช่วยลดฮอร์โมนเอสโตรเจนลงได้ นอกจากนี้สาวโสดที่มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตแบบสุดเหวี่ยงทั้งกินอาหารไขมันสูง ออกกำลังกายน้อย ดื่มแอลกอฮอล์บ่อยก็ยิ่งเสี่ยงโรคมะเร็งเต้านมมากขึ้นไปอีกครับ ฉะนั้นหมั่นควรตรวจเต้านมเป็นประจำ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน และหากพบว่ามีสิ่งผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ทันทีจะดีที่สุดครับ

5. โรคอัลไซเมอร์
โรคอัลไซเมอร์มีสาเหตุจากเนื้อสมองที่เหี่ยวลง ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเซลล์ประสาทหยุดการทำงาน เสียการติดต่อสื่อสารระหว่างเซลล์ประสาทเซลล์อื่น กระทบกับสมองส่วนความคิดความเข้าใจ ซึ่งทำหน้าที่เกี่ยวกับความคิด ความจำ ภาษา ทำให้มีปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามเดิม งานวิจัยจากประเทศอังกฤษพบว่า คนที่อยู่เป็นโสดมีความเสี่ยงเป็นโรคสมองเสื่อมมากถึง 42 % เมื่อเทียบกับคนที่มีคู่ชีวิต

นอกจากนี้ยังพบว่าคนที่อยู่เป็นโสดตลอดชีวิตมีความเสี่ยงเป็นโรคสมองเสื่อมเพิ่มขึ้น 2 เท่า คนที่หย่าร้างช่วงวัยกลางคนและครองตัวเป็นโสดเสี่ยงเพิ่มขึ้น 3 เท่า และที่สูญเสียคู่ครองก่อนช่วงกลางชีวิตและยังอยู่ตัวคนเดียวตลอดมาจะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นถึง 6 เท่า ในทางกลับกันคนที่ใช้ชีวิตอยู่กับคู่ครองในช่วงกลางชีวิตมีความเสี่ยงโรคสมองเสื่อมลดลง 50% เมื่อเข้าสู่วัยชราเมื่อเปรียบเทียบกับคนโสด