สิ่งที่เราปฏิเสธไม่ได้เลย ก็คือ หลายคนในยุคนี้กำลังประสบกับปัญหาภาวะไขมันเกิน หรือมีไขมันสะสมตามส่วนต่างๆของร่างกาย มากจนเกินไปนั่นเอง ดังนั้น คำว่า “อ้วน” พูดเบาๆก็เจ็บ คำๆ นี้นับว่าเป็นคำหยาบคายแสลงใจแก่คนฟังเป็นอย่างยิ่ง
แต่ก็เป็นเรื่องยากที่จะหลีกเลี่ยง ทำให้เราต้องเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับคำข้างต้นโดยที่เราไม่เต็มใจ ดังนั้น เราจึงพยายามแก้ไข โดยวิธีการต่างๆ เพื่อกำจัดไขมันส่วนเกินออกไป
การลดความอ้วน ด้วยวิธี Gastric Balloon
ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย หรือการควบคุมอาหาร รับประทานอาหารคลีนก็แล้ว เข้าฟิตเนสก็แล้ว ทำทุกวิถีทางที่คนเขาพูดกันว่าทำแล้วสามารถลดน้ำหนักได้ก็ยังไม่เป็นผล
ดังนั้น หลายคนจึงหันไปพึ่งยาลดน้ำหนัก แม้จะรู้ดีว่ามีอันตรายต่อร่างกาย และเราก็ยังไม่รู้จักเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะช่วยกำจัดไขมันอย่างได้ผล จนทำให้หลายคนต้องเจอกับความเสี่ยงและอันตรายจากยาลดน้ำหนักมาแล้วมากมาย
แต่ในวันนี้ การพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ ทางการแพทย์เกิดขึ้นมากมายด้วยนวัตกรรมที่ล้ำสมัยทำให้ใครหลายๆคนพบกับทางออกที่ดี และตัวช่วยสำหรับการลดน้ำหนักแบบไม่ทำร้ายสุขภาพ และไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย การันตีโดยทางการแพทย์และสถาบันต่างๆ ที่น่าเชื่อถือมากมายทั้งไทยและต่างประเทศ
เทคโนโลยีการลดความอ้วนที่สามารถใช้ได้ผล สำหรับวันนี้คือ Gastric Balloon เป็นเทคโนโลยีที่เราจะนำมาฝากกันไปดูว่าเทคโนโลยีนี้คืออะไร ช่วยให้เราลดน้ำหนักอย่างเห็นผลได้อย่างไร
Gastric Balloon คือ เทคโนโลยีการลดน้ำหนัก วิธีนี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อมาช่วยให้เราสามารถลดน้ำหนักได้โดยไม่ต้องทานยาและไม่เจ็บตัวในการผ่าตัดเป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ถูกพูดถึงมากมาย โดยในการรักษาแพทย์จะทำการส่องกล้อง เพื่อเข้าไปใส่บอลลูนในกระเพาะอาหาร
ข้อดีของวิธีนี้คือ สะดวกไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัด ไม่มีบาดแผลจากการผ่าตัด และยังช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อที่สำคัญ สามารถเห็นผลได้อย่างชัดเจน เนื่องจากน้ำหนักที่ลดได้เฉลี่ยอยู่ที่ 15 ถึง 20 กิโลกรัม ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
การบอลลูนในกระเพาะอาหาร
การลดน้ำหนัก เราสามารถทำได้หลากหลายวิธี หนึ่งในนั้นคือการควบคุมอาหาร ซึ่งเป็นเรื่องที่เราทุกคนรู้จักกันดี แต่สิ่งที่ยากสำหรับเรื่องนี้ ก็คือ การควบคุมอาหารตามธรรมชาติ หมายความว่าเราเป็นผู้ควบคุมตัวเอง ไม่ให้อยากกินนั่นกินนี่ตามใจปาก
และส่วนใหญ่มักจะทำไม่ได้ ดังนั้น Gastric Balloon จึงเป็นนวัตกรรมที่ถูกคิดค้นขึ้นมา เพื่อช่วยให้การควบคุมอาหารของเราเป็นไปได้อย่างดีขึ้น โดยมันจะช่วยควบคุมการบริโภคอาหารตามขีดจำกัดของพื้นที่ในกระเพาะอาหาร หรือพูดง่ายๆว่าคนส่วนใหญ่ที่มีน้ำหนักเกินมักจะมีพื้นที่ของกระเพาะอาหารค่อนข้างใหญ่ เนื่องจากมันถูกขยายตัวออกไปตามปริมาณการบริโภคของเราในสมัยอดีตจนถึงปัจจุบัน การใส่บอลลูนเข้าไปในกระเพาะอาหาร เป็นการจำกัดพื้นที่ให้มีบริเวณแคบลง ทำให้เรารับประทานอาหารในเขตจำกัด รับประทานอาหารได้น้อยลง
วิธีการส่องกล้องใส่บอลลูน
วิธีการในการรักษา แพทย์จะนำบอลลูนซึ่งทำจากซิลิโคน เข้าไปไว้ในกระเพาะอาหารด้วยวิธีการส่องกล้อง ขั้นตอนนี้จะเหมือนกับการส่องกล้อง เพื่อรักษากระเพาะอาหารทั่วไป แต่จำเป็นจะต้องให้ยานอนหลับขณะทำหัตถการ โดยวิสัญญีแพทย์ผู้ชำนาญการ จากนั้นจึงนำกล่องใส่บอลลูนที่เป็นซิลิโคนเข้าไปในกระเพาะอาหาร
ขั้นตอนต่อมา คือการไฟน้ำที่ผสมกับสารสีฟ้าเพื่อขยายบอลลูนให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ในขั้นตอนนี้ค่อนข้างสำคัญแทบจะต้องคำนวณปริมาณสารน้ำอย่างเหมาะสมกับคนไข้แต่ละคน โดยที่แพทย์สามารถปรับขนาดเพิ่มหรือลดได้ตามความต้องการภายหลังจากการทำหัตถการ
การพักฟื้น หลังจากทำหัตถการสามารถนอนพักฟื้นเพียงแค่ 1 คืนในโรงพยาบาล เพื่อให้แพทย์ตรวจประเมินอาการ หลังจากนั้นก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ หลังจากนั้น 6-12 เดือน ตัวบอลลูน ที่ใส่เข้าไปไว้ในกระเพาะอาหารจะ เริ่มเข้าไปแทนที่พื้นที่ในกระเพาะอาหารอย่างสมบูรณ์
ผู้เข้ารับการรักษาจะรู้สึกว่ารับประทานอาหารได้น้อยลงเรื่อยๆตามลำดับ การขีดจำกัดของพื้นที่ในกระเพาะอาหารที่ยังว่างอยู่ทำให้รู้สึกอิ่มไวและรับประทานอาหารได้น้อยลงเรื่อยๆ
ดังนั้นเมื่อการบริโภคอาหารต่อวัน ต่อมื้อ ลดลงจึงส่งผลให้น้ำหนักตัวค่อยๆลดลงตามไปด้วย โดยแพทย์จะทำการนัดตรวจติดตามและมีคำแนะนำสำหรับการปฏิบัติตัว ในแต่ละช่วงอย่างต่อเนื่องโดยเฉลี่ยแล้ว ผู้เข้ารับการรักษาด้วยวิธีนี้จะมีน้ำหนักตัวลดลง 15-20 กิโลกรัมภายใน 1 ปี